Thai: Unlocked Literal Bible for 2 Peter, 2 Thessalonians, James, Philemon, Philippians

Formatted for Translators

©2022 Wycliffe Associates
Released under a Creative Commons Attribution-ShareAlike 4.0 International License.
Bible Text: The English Unlocked Literal Bible (ULB)
©2017 Wycliffe Associates
Available at https://bibleineverylanguage.org/translations
The English Unlocked Literal Bible is based on the unfoldingWord® Literal Text, CC BY-SA 4.0. The original work of the unfoldingWord® Literal Text is available at https://unfoldingword.bible/ult/.
The ULB is licensed under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 4.0 International License.
Notes: English ULB Translation Notes
©2017 Wycliffe Associates
Available at https://bibleineverylanguage.org/translations
The English ULB Translation Notes is based on the unfoldingWord translationNotes, under CC BY-SA 4.0. The original unfoldingWord work is available at https://unfoldingword.bible/utn.
The ULB Notes is licensed under the Creative Commons Attribution-ShareAlike 4.0 International License.
To view a copy of the CC BY-SA 4.0 license visit http://creativecommons.org/licenses/by-sa/4.0/
Below is a human-readable summary of (and not a substitute for) the license.
You are free to:
The licensor cannot revoke these freedoms as long as you follow the license terms.
Under the following conditions:
Notices:
You do not have to comply with the license for elements of the material in the public domain or where your use is permitted by an applicable exception or limitation.
No warranties are given. The license may not give you all of the permissions necessary for your intended use. For example, other rights such as publicity, privacy, or moral rights may limit how you use the material.

Philippians

1

1จากเปาโลและทิโมธี ผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ ถึงทุกท่านที่ถูกแยกไว้ในพระเยซูคริสต์ที่อยู่ในเมืองฟีลิปปี พร้อมกับบรรดาผู้ปกครองดูแล และบรรดามัคนายก2ขอให้พระคุณ และสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของเราและจากพระเยซูคริสต์เจ้าอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด

3ข้าพเจ้าขอบคุณพระเจ้าของข้าพเจ้าทุกครั้งเมื่อระลึกถึงท่านทั้งหลาย4ข้าพเจ้าอธิษฐานเพื่อพวกท่านทั้งหลายอยู่เสมอ ข้าพเจ้าอธิษฐานด้วยใจชื่นชมยินดี5ข้าพเจ้าขอบคุณพระเจ้าที่พวกท่านได้ร่วมกันประกาศข่าวประเสริฐตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันนี้6ข้าพเจ้ามั่นใจในเรื่องนี้ว่า พระองค์ผู้ได้ทรงตั้งต้นการดีไว้ในพวกท่านจะทรงกระทำต่อไปให้สำเร็จ จนถึงวันของพระเยซูคริสต์เจ้า

7ที่ข้าพเจ้ารู้สึกแบบนี้กับพวกท่านทั้งหลายจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะพวกท่านอยู่ในหัวใจของข้าพเจ้า พวกท่านทั้งหมดได้มีส่วนร่วมในพระคุณทั้งในการถูกจองจำของข้าพเจ้าและในการปกป้องและรับประกันข่าวประเสริฐนี้8เพราะพระเจ้าทรงเป็นพยานว่า ข้าพเจ้าปรารถนาอยากพบพวกท่านทั้งหลายด้วยความรักที่ลึกซึ้งของพระเยซูคริสต์

9ข้าพเจ้าอธิษฐานดังนี้ ขอให้ความรักของพวกท่านจำเริญมากยิ่งขึ้นในความรู้และในความเข้าใจทั้งหมด10ข้าพเจ้าอธิษฐานเพื่อสิ่งนี้ เพื่อพวกท่านจะได้ทดสอบและเลือกเอาสิ่งที่ยอดเยี่ยมไว้ ข้าพเจ้าอธิษฐานเพื่อสิ่งนี้ เพื่อพวกท่านจะมีความจริงใจและไม่มีที่ติในวันของพระคริสต์11เพื่อให้ท่านเต็มเปี่ยมไปด้วยผลแห่งความชอบธรรมที่ผ่านมาทางพระเยซูคริสต์ เพื่อเป็นที่ถวายเกียรติและสรรเสริญพระเจ้า

12บัดนี้พี่น้องที่รัก ข้าพเจ้าอยากให้ท่านรู้ว่าสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับขัาพเจ้าทำให้ข่าวประเสริฐได้ขยายออกไปอย่างมากมาย13ผลที่ตามมาก็คือ พวกทหารพระราชวังทั้งหมดและคนอื่นได้รู้ถึงการจองจำในพระคริสต์ของพระเจ้า14พี่น้องส่วนใหญ่ในองค์พระผู้เป็นเจ้ามีแรงจูงใจอันเนื่องมาจากการถูกจองจำของข้าพเจ้าที่จะกล้ากล่าวพระวจนะโดยไม่กลัวอะไร

15บางคนประกาศพระวจนะของพระเจ้าด้วยใจอิจฉาและทุ่มเถียงกัน บางคนก็ประกาศด้วยใจปรารถนาดี16ผู้ที่ประกาศพระคริสต์ด้วยความรักรู้ว่าข้าพเจ้าถูกจองจำเพื่อปกป้องข่าวประเสริฐ17แต่คนอื่นที่ประกาศพระคริสต์ด้วยแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวและเสเสร้ง พวกเขาคิดว่าพวกเขากำลังสร้างปัญหาให้ข้าพเจ้าในการถูกตีตรวนของข้าพเจ้า

18ไม่ว่าจะโดยวิธีใดก็ตาม ไม่ว่าเขาจะเสแสร้งหรือว่าทำด้วยความจริง พระคริสต์ก็ได้ถูกประกาศออกไปอยู่ดี ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงมีความชื่นชมยินดี และข้าพเจ้าก็จะยินดีต่อไป19เพราะข้าพเจ้าทราบว่าสิ่งนี้จะส่งผลให้ข้าพเจ้าได้รับการปลดปล่อย สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเพราะคำอธิษฐานของพวกท่าน และเพราะการช่วยเหลือของพระวิญญาณของพระคริสต์

20ถ้าดูจากความหวังความหวังอันเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและความเชื่อมั่นของข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะไม่มีความละอาย แต่โดยความกล้าหาญทั้งสิ้นอย่างที่เคยมีมาอยู่เสมอและเช่นเดียวกันในตอนนี้ ข้าพเจ้าหวังว่าพระคริสต์จะได้รับเกียรติในกายของข้าพเจ้า ไม่ว่าจะโดยการมีชีวิตอยู่หรือโดยความตาย21สำหรับข้าพเจ้า การมีชีวิตอยู่ก็เพื่อพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร

22แต่ถ้าการอยู่ในกายนี้ก่อให้เกิดผลจากการทำงานหนักของข้าพเจ้า แล้วจะเลือกอะไร? ข้าพเจ้าก็ไม่รู้23เพราะข้าพเจ้าลำบากใจที่จะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะจากไปอยู่กับพระคริสต์ ซึ่งดีกว่าอย่างมากมาย24แต่การยังอยู่ในร่างกายนี้ก็จำเป็นมากกว่าเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของพวกท่าน

25เนื่องจากข้าพเจ้ามั่นใจในเรื่องนี้ ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าจะยังคงอยู่กับพวกท่านทั้งหลายต่อไปอีก เพื่อความก้าวหน้าและความชื่นชมยินดีในความเชื่อของพวกท่าน26ผลก็คือ เพื่อว่าโดยทางข้าพเจ้า พวกท่านจะมีเหตุผลเพื่อโอ้อวดในองค์พระเยซูคริสต์มากขึ้นเมื่อข้าพเจ้ามาหาพวกท่านอีกครั้งหนึ่ง27ขอเพียงดำเนินชีวิตให้สมกับข่าวประเสริฐของพระคริสต์ จงกระทำเช่นนี้เพื่อว่าไม่ว่าข้าพเจ้าจะมาหาท่านหรือข้าพเจ้าไม่อยู่ ข้าพเจ้าก็จะได้ยินว่าพวกท่านยืนหยัดอย่างมั่นคงในวิญญาณเดียวกัน ข้าพเจ้าอยากได้ยินข่าวว่าพวกท่านได้ร่วมกันต่อสู้ด้วยจิตใจเดียวกันเพื่อความเชื่อในข่าวประเสริฐ

28อย่ากลัวในสิ่งที่ศัตรูของพวกท่านได้กระทำ สิ่งนี้เป็นเครื่องหมายแห่งการถูกทำลายของพวกเขา แต่สำหรับพวกท่านนี่เป็นเครื่องหมายแห่งความรอดของท่าน และสิ่งนี้มาจากพระเจ้า29เพราะสิ่งนี้ได้ประทานให้แก่พวกท่านเพื่อเห็นแก่พระคริสต์ ไม่เพียงแค่ให้ท่านเชื่อในพระองค์เท่านั้น แต่ให้ยอมทนทุกข์เพื่อพระองค์ด้วย30เพราะท่านก็มีการต่อสู้อย่างเดียวกับที่ท่านได้เห็นมาแล้วจากข้าพเจ้า และเวลานี้ได้ยินว่าข้าพเจ้ากำลังต่อสู้อยู่

2

1ฉะนั้น ถ้ามีการเร้าใจในความรัก ถ้ามีการปลอบประโลมใจจากความรักของพระองค์ ถ้ามีการสามัคคีธรรมในพระวิญญาน ถ้ามีความเห็นอกเห็นใจและความกรุณาปราณี2จงทำให้ความยินดีของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยมด้วยการคิดเหมือนกัน มีความรักหมือนอย่างเดียวกัน และมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในฝ่ายวิญญาณ และมีวัตถุประสงค์อย่างเดียวกัน

3อย่าทำสิ่งใดเพราะเห็นแก่ตัวหรือชิงดีชิงเด่นกัน แต่จงมีใจถ่อม ถือว่าคนอี่นดีกว่าตนเอง4อย่าเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองฝ่ายเดียว แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นด้วย

5จงคิดเหมือนอย่างพระเยซูคริสต์6แม้พระองค์มีสภาพเป็นพระเจ้า แต่พระองค์ไม่ถือว่าความเสมอภาคของพระองค์กับพระเจ้านั้นน่ายึดถือ7แต่พระองค์ยอมสละฐานะของพระองค์เอง พระองค์มารับสภาพเป็นทาสรับใช้ พระองค์ปรากฏในสภาพที่เป็นมนุษย์8พระองค์ทรงถ่อมพระองค์เอง และยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณาบนไม้กางเขน

9ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงทรงยกพระองค์ขึ้น ประทานให้พระนามของพระองค์ที่เหนือนามทุกนามทั้งปวง10พระองค์กระทำดังนี้เพื่อว่าในพระนามของพระเยซู ทุกเข่าจะกราบลง คือทุกเข่าของผู้ที่อยู่ในสวรรค์และอยู่บนแผ่นดินโลกและใต้แผ่นดินโลก11พระเจ้ากระทำดังนี้ เพื่อให้ทุกลิ้นยอมรับด้วยปากว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าพระบิดา

12ดังนั้น ท่านที่รักของข้าพเจ้า เหมือนอย่างที่ท่านเชื่อฟังอยู่เสมอมา ไม่เพียงเฉพาะเวลาที่ข้าพเจ้าอยู่ด้วยเท่านั้นแต่มากยิ่งกว่าในเวลาที่ข้าพเจ้าไม่อยู่ จงทำตัวให้สมกับความรอดที่ได้รับด้วยความเกรงกลัวและตัวสั่น13เพราะพระเจ้าเป็นผู้กำลังกระทำการภายในท่าน เพื่อให้ท่านมีความตั้งใจและทำการงานเพื่อให้เป็นที่ชอบพระทัยของพระองค์

14จงกระทำทุกสิ่งโดยปราศจากการบ่นหรือทุ่มเถียงกัน15ให้ปฏิบัติเช่นนี้ เพื่อว่าท่านจะเป็นผู้ที่ไม่มีใครตำหนิท่านได้และซื่อตรง เป็นบุตรของพระเจ้าที่ปราศจากตำหนิ จงปฎิบัติดังนี้เพื่อที่ท่านจะส่องแสงดังความสว่างในโลกท่ามกลางคนในยุคนี้ซึ่งมีแต่ความคดโกงและชั่วร้าย16จงยึดมั่นในพระวจนะแห่งชีวิตเพื่อว่าข้าพเจ้าจะมีเหตุให้รับเกียรติในวันแห่งพระคริสต์ เมื่อนั้นข้าพเจ้าจะได้รู้ว่าไม่ได้วิ่งแข่งหรือทำงานหนักอย่างเปล่าประโยชน์

17แต่ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะต้องเทชีวิตลงถวายเป็นเครื่องบูชาบนแท่นบูชาและเป็นประโยชน์ต่อความเชื่อของท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าก็ปิติยินดีและปิติยินดีร่วมกับท่านทั้งหลายด้วย18ในลักษณะอย่างเดียวกัน ท่านก็ควรปิติยินดีและปิติยินดีร่วมกับข้าพเจ้าด้วย

19แต่ข้าพเจ้าหวังใจในองค์พระเยซูคริสต์เจ้าว่าจะส่งทิโมธีไปหาท่านโดยเร็ว เพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้รับกำลังใจเมื่อได้รับรู้สิ่งที่เกี่ยวกับพวกท่าน20เพราะข้าพเจ้าไม่มีคนอื่นที่มีท่าทีที่ห่วงใยท่านทั้งหลายเหมือนอย่างเขา21เพราะเขาเหล่านั้นแสวงหาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ใช่สิ่งที่เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์

22แต่ท่านรู้ว่าเขาเหมาะสมอย่างยิ่งเพราะเขาร่วมงานกับข้าพเจ้าในข่าวประเสริฐเหมือนลูกคอยปรนนิบัติพ่อของตน23ดังนั้นข้าพเจ้าหวังใจว่าจะส่งเขามาหาท่านโดยเร็วทันทีที่ข้าพเจ้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้าพเจ้า24แต่ข้าพเจ้ามั่นใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าข้าพเจ้าเองจะได้มาหาพวกท่านเร็วๆ นี้เช่นกัน

25แต่ข้าพเจ้าเห็นว่ามีความจำเป็นต้องส่งเอฟาโฟรติทัสกลับไปหาพวกท่าน เขาเป็นเหมือนน้องชายและเพื่อนร่วมงาน และเป็นเพื่อนทหารของข้าพเจ้า และยังเป็นตัวแทนของท่านและผู้รับใช้ที่คอยปรนนิบัติในความจำเป็นของข้าพเจ้า26เพราะว่าเขากังวลใจและปรารถนาที่จะอยู่กับท่านทั้งหลายเพราะท่านทราบว่าเขาป่วย27เขาป่วยหนักปางตาย แต่พระเจ้าทรงเมตตาต่อเขา และไม่เพียงแต่ต่อเขาเท่านั้น แต่ต่อข้าพเจ้าด้วย เพื่อว่าข้าพเจ้าจะไม่มีความทุกข์หนักไปมากกว่านี้

28เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงปรารถนาที่จะส่งเขาไปโดยเร็วยิ่งขึ้นเพี่อว่าเมื่อท่านเห็นเขาอีกครั้ง ท่านจะได้ยินดีและข้าพเจ้าจะได้คลายกังวล29จงต้อนรับเอฟาโฟรดิทัสในองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยินดี จงให้เกียรติแก่คนอย่างเขา30เพราะเพื่องานของพระคริสต์ เขาจึงเกือบจะสูญเสียชีวิต เขาเสี่ยงชีวิตของเขาเพื่อปรนนิบัติข้าพเจ้าและทำแทนในสิ่งที่ท่านไม่อาจทำให้ข้าพเจ้าได้

3

1สุดท้ายนี้ พี่น้องของข้าพเจ้า จงชี่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า สำหรับข้าพเจ้าแล้วการเขียนข้อความอย่างเดียวกันนี้ถึงท่านอีกครั้งไม่ใช่เรื่องลำบาก สิ่งนี้จะทำให้ท่านทั้งหลายปลอดภัย2จงระวังพวกสุนัข จงระวังพวกกระทำชั่วทั้งหลาย จงระวังพวกเชือดเนื้อเถือหนัง3เพราะว่าพวกเราเป็นผู้ที่เข้าสุหนัต เป็นผู้ที่นมัสการโดยพระวิญญานของพระเจ้า เป็นผู้ที่อวดอ้างในพระเยซูคริสต์ และเป็นผู้ที่ไม่ไว้ใจในเนื้อหนัง

4แม้อย่างนั้น ตัวข้าพเจ้าเองอาจมีเหตุให้ไว้ใจในเนื้อหนังได้ ถ้าใครคิดว่าตนเองไว้ใจในเนื้อหนัง ข้าพเจ้าก็มีมากกว่าเขาเสียอีก5ข้าพเจ้าเข้าสุหนัตเมื่อเกิดมาได้แปดวัน เป็นคนอิสราเอล ในเผ่าเบนยามิน เป็นฮีบรูที่เกิดกับคนฮีบรู ในด้านธรรมบัญญัติอยู่ในคณะฟาริสี

6ข้าพเจ้าได้ข่มเหงคริสตจักรด้วยความกระตือรือร้น ในด้านความชอบธรรมแห่งธรรมบัญญัติ ข้าพเจ้าก็ไม่มีที่ติ7แต่สิ่งใดที่เคยเป็นกำไรสำหรับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าถือว่าขาดทุนแล้วเพราะพระคริสต์

8แท้ที่จริงแล้ว ข้าพเจ้าถือว่าทุกสิ่งขาดทุนเพราะเหตุคุณค่าอันสูงยิ่งที่ได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า เพื่อพระองค์ข้าพเจ้ายอมสละทุกสิ่งและถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนเศษขยะเพื่อว่าข้าพเจ้าจะได้พระคริสต์เป็นกำไร9และจะได้เห็นว่าข้าพเจ้าอยู่ในพระองค์ ข้าพเจ้าไม่มีความชอบธรรมของข้าพเจ้าเองซึ่งได้มาโดยธรรมบัญญัติ แต่ข้าพเจ้ามีความชอบธรรมซึ่งมาโดยความเชื่อในพระคริสต์ คือความชอบธรรมที่มาจากพระเจ้าโดยความเชื่อ10ดังนั้น ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะได้รู้จักพระองค์และฤทธิ์อำนาจแห่งการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ และมีส่วนร่วมในการทนทุกข์ของพระองค์ด้วย ข้าพเจ้าปรารถนาจะได้รับการเปลี่ยนแปลงให้เป็นเหมือนพระองค์ในความตายของพระองค์11เพื่อที่ว่าข้าพเจ้าจะได้มีประสบการณ์ในการเป็นขึ้นจากความตายด้วย

12มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้รับสิ่งเหล่านี้แล้ว หรือดีพร้อมแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป เพื่อที่จะได้ฉวยไว้เอาตามอย่างพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้แล้ว13พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยเอาไว้ได้แล้ว แต่กำลังทำสิ่งหนึ่งคือลืมสิ่งที่ผ่านมาแล้วเสียและโน้มตัวไปยังสิ่งที่อยู่ข้างหน้า14ข้าพเจ้าบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลคือการทรงเรียกจากพระเจ้าซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์

15พวกเราที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ให้พวกเราคิดอย่างนี้ และถ้าท่านคิดเห็นเป็นอย่างอื่นในเรื่องใด พระเจ้าจะทรงโปรดสำแดงสิ่งเหล่านั้นให้ท่านเห็นด้วย16อย่างไรก็ตาม พวกเราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตามนั้นต่อไป

17พี่น้องทั้งหลาย จงเลียนแบบอย่างข้าพเจ้า และคอยดูคนทั้งหลายเหล่านั้นที่ดำเนินตามแบบอย่างที่ท่านเห็นในพวกเราอย่างใกล้ชิด18มีหลายคนที่ประพฤติตัวเป็นศัตรูต่อกางเขนของพระคริสต์ ซึ่งข้าพเจ้าได้บอกท่านถึงเรื่องของเขาหลายครั้งแล้ว และเดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ายังบอกท่านด้วยน้ำตาไหล19ปลายทางของคนเหล่านั้นคือความพินาศ พระของเขาคือกระเพาะของเขา เขาโอ้อวดในสิ่งที่น่าอับอายของพวกเขา พวกเขาคิดถึงแต่สิ่งทางโลก

20แต่เราที่เป็นพลเมืองแห่งสวรรค์ที่ซึ่งเรารอคอยพระผู้ช่วยให้รอดคือองค์พระเยซูคริสต์เจ้า21พระองค์จะทรงเปลี่ยนร่างกายอันต่ำต้อยของพวกเรา ให้เป็นเหมือนพระกายอันทรงสง่าราศีของพระองค์ ด้วยฤทธานุภาพของพระองค์ที่จะทรงสามารถปราบทุกสิ่งลงอยู่ใต้อำนาจของพระองค์

4

1เหตุฉะนั้น พี่น้องที่รักของข้าพเจ้าผู้ซึ่งข้าพเจ้าปรารถนาอยากพบพวกท่าน ผู้เป็นความชื่นชมยินดีและเป็นมงกุฎของข้าพเจ้า เพื่อนที่รักเอ๋ย จงยืนมั่นคงในองค์พระผู้เป็นเจ้า2ข้าพเจ้าขอร้องนางยูโอเดีย และขอร้องนางสินทิเค ให้มีความคิดแบบเดียวกันในองค์พระผู้เป็นเจ้า3แน่นอน ข้าพเจ้าขอร้องพวกท่านเช่นกัน ผู้เป็นเพื่อนร่วมแอกที่แท้จริงของข้าพเจ้า โปรดช่วยผู้หญิงเหล่านี้ เพราะพวกเขาได้ร่วมแรงกับข้าพเจ้าในการประกาศข่าวประเสริฐพร้อมกับเคลเมนท์และเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ของข้าพเจ้าซึ่งมีรายชื่อในหนังสือแห่งชีวิต

4จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกทีว่า จงชื่นชมยินดี5ให้ความอ่อนสุภาพของท่านเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนทั้งหมด องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้6อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดเลย แต่จงทูลทุกสิ่งด้วยการอธิษฐาน การร้องขอ และด้วยการขอบพระคุณ ให้พระเจ้าทรงทราบการร้องขอของพวกท่าน7และสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจทั้งหมด จะคุ้มครองใจและความคิดของพวกท่านในพระเยซูคริสต์

8สุดท้ายนี้ พี่น้องทั้งหลาย สิ่งใดที่เป็นจริง สิ่งใดที่มีเกียรติ สิ่งใดที่ยุติธรรม สิ่งใดที่บริสุทธิ์ สิ่งใดที่น่ารัก สิ่งใดที่น่าฟัง ถ้ามีสิ่งใดที่ล้ำเลิศ ถ้ามีสิ่งใดที่น่าสรรเสริญ ให้คิดถึงสิ่งเหล่านี้9สิ่งที่ท่านเคยเรียน เคยรับ เคยได้ยิน เคยเห็นในข้าพเจ้า ให้ทำสิ่งเหล่านี้ แล้วพระเจ้าแห่งสันติสุขจะอยู่กับท่านทั้งหลาย

10ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะในที่สุดพวกท่านได้หวนระลึกถึงข้าพเจ้าอีกในตอนนี้ เมื่อก่อนพวกท่านเคยเป็นห่วงข้าพเจ้าอย่างจริงจัง แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะให้พวกท่านช่วยข้าพเจ้า11ข้าพเจ้าไม่ได้เรียกร้องเพื่อความต้องการของข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะพอใจในทุกสถานการณ์12ข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างขัดสนหรืออยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ในทุกทางและในทุกสิ่ง ข้าพเจ้าเรียนรู้เคล็ดลับทั้งเมื่อยามอิ่มและเมื่อยามหิวโหย ทั้งเมื่อยามมีอย่างมากมายและเมื่อขัดสน13ข้าพเจ้าสามารถทำทุกสิ่งได้โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า

14อย่างไรก็ตาม พวกท่านได้มีส่วนร่วมในความทุกข์ยากทั้งหลายของข้าพเจ้า15พี่น้องชาวฟีลิปปี ท่านรู้ว่า เมื่อเริ่มแรกในการประกาศข่าวประเสริฐ เมื่อข้าพเจ้าออกจากมาซิโดเนีย ไม่มีใครสนับสนุนข้าพเจ้าทั้งในการให้ของบริจาคและการรับของบริจาคเลยนอกจากพวกท่านเท่านั้น16แม้ตอนที่ข้าพเจ้าอยู่ในเมืองเธสะโลนิกา พวกท่านได้ส่งสิ่งที่ข้าพเจ้าขาดอยู่มาช่วยข้าพเจ้าหลายครั้ง17ข้าพเจ้าไม่ได้หวังของบริจาค แต่ข้าพเจ้าอยากเห็นผลเพิ่มขึ้นในบัญชีของพวกท่าน

18ข้าพเจ้าได้รับทุกอย่างแล้ว และมีอย่างมากมาย ข้าพเจ้าอิ่มแล้ว ข้าพเจ้าได้รับสิ่งของที่พวกท่านได้ฝากเอปาโฟรดิทัส ซึ่งเป็นกลิ่นหอมหวาน และเป็นเครื่องบูชาซึ่งเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า19พระเจ้าจะทรงเติมทุกสิ่งที่ท่านขาดอยู่นั้นจากทรัพย์อันรุ่งเรืองของพระองค์ในพระเยซูคริสต์20บัดนี้ขอให้พระเจ้าพระบิดาของเราได้รับพระเกียรติตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน

21ขอฝากทักทายผู้เชื่อทุกท่านในองค์พระเยซูคริสต์ พี่น้องที่อยู่กับข้าพเจ้าก็ฝากทักทายมายังพวกท่านด้วย22บรรดาผู้เชื่อทั้งหลายที่นี่ฝากทักทายท่านทั้งหลาย โดยเฉพาะคนที่อยู่ในพระราชวังของซีซาร์23ขอพระคุณขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าสถิตกับวิญญาณของพวกท่าน

2 Thessalonians

1

1เปาโล สิลวานัสและทิโมธี ถึงคริสตจักรของชาวเมืองเธสะโลนิกาในพระเจ้าพระบิดาของพวกเราและองค์พระเยซูคริสต์เจ้า2ขอพระคุณและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาของพวกเราและองค์พระเยซูคริสต์เจ้าดำรงอยู่กับพวกท่านทั้งหลายเถิด

3พี่น้องทั้งหลาย พวกเราต้องขอบคุณพระเจ้าสำหรับพวกท่านเสมอ เนื่องจากสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เหมาะสม เพราะความเชื่อของพวกท่านเติบโตขึ้นมาก และความรักของแต่ละคนในพวกท่านที่มีต่อกันก็ทวีขึ้นมากเช่นกัน4ดังนั้นพวกเราจึงอวดเรื่องของพวกท่านต่อคริสตจักรอื่นๆ ของพระเจ้า เราพูดเกี่ยวกับความอดทนและความเชื่อของพวกท่านในการข่มเหงทั้งหมดที่พวกท่านได้รับ เราพูดถึงความยากลำบากที่พวกท่านต้องทน5นี่เป็นหมายสำคัญของการพิพากษาอันชอบธรรมของพระเจ้า ผลก็คือพวกท่านจะได้เป็นคนที่เหมาะสมสำหรับราชอาณาจักรของพระเจ้าสำหรับการที่พวกท่านทนทุกข์

6เป็นการชอบธรรมของพระเจ้าที่จะให้ทุกข์สนองแก่คนที่ให้ทุกข์แก่พวกท่าน7และบรรเทาความทุกข์แก่พวกท่านผู้ได้ร่วมทนทุกข์กับเรา พระองค์จะทรงกระทำอย่างนี้เมื่อพระเยซูเสด็จมาจากสวรรค์พร้อมกับทูตแห่งฤทธิ์อำนาจของพระองค์8ในไฟนรกอันลุกโชน พระองค์จะแก้แค้นคนที่ไม่รู้จักพระเจ้าและคนที่ไม่ตอบสนองในข่าวประเสริฐแห่งองค์พระเยซูเจ้าของเราทั้งหลาย

9พวกเขาจะทนทุกข์กับการถูกลงโทษ อันเป็นความพินาศนิรันดร์ และพรากจากการทรงสถิตของพระเจ้าและจากพระสิริแห่งฤทธิ์อำนาจของพระองค์10พระองค์จะทำเช่นนี้เมื่อพระองค์เสด็จมาในวันนั้นเพื่อที่จะได้รับเกียรติท่ามกลางคนของพระองค์ และเป็นที่อัศจรรย์ใจท่ามกลางทุกคนที่เชื่อ เพราะพวกท่านเชื่อคำพยานที่พวกเราได้ให้แก่ท่านทั้งหลาย

11ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงอธิษฐานเผื่อพวกท่านเป็นประจำ พวกเราอธิษฐานเพื่อที่ว่าพระเจ้าของเราทั้งหลายจะมองเห็นว่า พวกท่านสมควรแก่การทรงเรียก พวกเราอธิษฐานเพื่อที่ว่าพระองค์จะทรงกระทำให้ความปรารถนาที่จะกระทำดีทุกอย่าง และความปรารถนาที่จะกระทำการงานแห่งความเชื่อทุกอย่างสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีด้วยฤทธิ์อำนาจ12เราทั้งหลายอธิษฐานในสิ่งเหล่านี้เพื่อที่ว่าพระนามขององค์พระเยซูเจ้าจะได้รับเกียรติผ่านทางพวกท่าน พวกเราอธิษฐานเพื่อที่ว่าท่านทั้งหลายจะได้รับเกียรติโดยทางพระองค์ เนื่องด้วยพระคุณของพระเจ้าของพวกเราและองค์พระเยซูคริสต์เจ้า

2

1ในเรื่องการเสด็จมาขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าของพวกเราและการที่พระองค์ได้รวบรวมพวกเราทั้งหมดให้มาอยู่ร่วมกันกับพระองค์นั้น พี่น้องทั้งหลาย พวกเราขอร้องพวกท่าน2ว่าอย่าให้ใจของพวกท่านหวั่นไหวง่ายหรือตื่นตระหนกไม่ว่าจะโดยวิญญาณ โดยข้อความหรือโดยจดหมายที่ดูเหมือนว่าจะมาจากพวกเราซึ่งอ้างว่าวันของพระผู้เป็นเจ้าได้มาถึงแล้ว

3อย่าให้ใครล่อลวงท่านทั้งหลายไม่ว่าจะในทางใด เพราะวันนั้นจะยังไม่มาถึงจนกว่าผู้ต่อต้านจะมาและคนนอกกฏหมายจะปรากฏคือลูกแห่งความพินาศ4ซึ่งเป็นคนที่ต่อต้านและยกย่องตนเองขึ้นเพื่อเป็นปฎิปักษ์กับทุกสิ่งที่เรียกว่าพระเจ้าหรือเป็นที่นมัสการบูชา ผลที่ตามมาคือ เขานั่งในวิหารของพระเจ้าและแสดงตนเองว่าเป็นพระเจ้า

5พวกท่านจำไม่ได้หรือว่าตอนที่ข้าพเจ้าอยู่กับพวกท่าน ข้าพเจ้าได้บอกท่านทั้งหลายถึงสิ่งเหล่านี้6ตอนนี้พวกท่านรู้แล้วว่าอะไรยับยั้งเขาไว้เพื่อที่เขาจะปรากฏตัวได้เฉพาะในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น7เพราะความลึกลับของการเป็นคนนอกกฏหมายกำลังทำงานอยู่ จึงต้องมีบางคนที่ยับยั้งเขาไว้ในตอนนี้เท่านั้นจนกว่าเขาจะถูกกำจัดไป

8แล้วพวกคนนอกกฏหมายจะปรากฏออกมาคือคนที่องค์พระเยซูเจ้าจะประหารด้วยลมหายใจจากปากของพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะกำจัดเขาให้หมดสิ้นโดยการสำแดงถึงการเสด็จมาของพระองค์9การมาของคนนอกกฏหมายก็เป็นเพราะการงานของซาตานโดยอิทธิฤทธิ์ หมายสำคัญและการอัศจรรย์จอมปลอมทั้งหมด10และโดยการล่อลวงทั้งหมดแห่งความอธรรม สิ่งเหล่านี้จะมีไว้สำหรับคนที่กำลังจะพินาศเพราะพวกเขาไม่ได้รับความรักแห่งความจริงเพื่อที่พวกเขาจะรอดได้

11โดยเหตุผลนี้พระเจ้าจึงให้การงานแห่งความผิดพลาดเกิดขึ้นกับพวกเขาเพื่อที่พวกเขาจะได้เชื่อคำโกหก12ผลคือพวกเขาทุกคนจะต้องถูกพิพากษาคือคนที่ไม่เชื่อในความจริงแต่เลือกที่จะยินดีในการอธรรม

13แต่พวกเราควรขอบพระคุณพระเจ้าเสมอสำหรับท่านทั้งหลายที่เป็นพี่น้องผู้เป็นที่รักขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะพระเจ้าได้ทรงเลือกพวกท่านในฐานะที่เป็นผลแรกแห่งความรอดในการชำระของพระวิญญาณและการเชื่อในความจริง14นี่เป็นสิ่งที่พระองค์ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายโดยผ่านทางข่าวประเสริฐของพวกเราเพื่อให้ได้รับศักดิ์ศรีแห่งองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของพวกเรา15ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย จงยืนหยัดอย่างมั่นคง จงยึดมั่นในธรรมเนียมที่พวกท่านได้รับการสอนไม่ว่าจะเป็นโดยคำพูดหรือโดยจดหมายของพวกเรา

16ขอให้องค์พระเยซูคริสต์เจ้าและพระเจ้าพระบิดาของพวกเราผู้ได้ทรงรักเราทั้งหลายและประทานความปลอบประโลมใจนิรันดร์และความเชื่อมั่นที่ดีสำหรับอนาคตโดยผ่านทางพระคุณแก่เราทั้งหลาย17ปลอบประโลมและเสริมสร้างหัวใจของพวกท่านให้มั่นคงในการงานและคำพูดอันดีทุกประการ

3

1พี่น้องทั้งหลาย จงอธิษฐานเผื่อพวกเราที่พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการประกาศออกไปอย่างรวดเร็วและได้รับเกียรติ อย่างที่ได้เกิดขึ้นกับพวกท่าน2จงอธิษฐานเพื่อให้พวกเราได้รับการปลดปล่อยจากคนพาลและชั่วร้ายเพราะไม่ใช่ว่าทุกคนมีความเชื่อ3แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสัตย์ซื่อ พระองค์จะเสริมสร้างท่านทั้งหลายและป้องกันพวกท่านไว้จากมารร้าย

4พวกเรามีความเชื่อมั่นในองค์พระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับพวกท่าน ว่าท่านทั้งสองกำลังทำและจะทำต่อไปในสิ่งที่เราสั่ง5ขอพระเจ้านำหัวใจของพวกท่านให้เข้าถึงความรักของพระเจ้าและความอดทนของพระคริสต์

6พี่น้องทั้งหลาย พวกเราสั่งท่านในพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา ว่าให้พวกท่านปลีกตัวออกจากพี่น้องทุกคนที่อยู่อย่างเกียจคร้านและไม่ได้ปฎิบัติตามธรรมเนียมที่พวกเราได้สอนท่านไว้7เพราะพวกท่านเองก็รู้ว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่พวกท่านจะเลียนแบบพวกเรา พวกเราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางพวกท่านเหมือนคนที่ไม่มีวินัย8และพวกเราไม่เคยทานอาหารของใครโดยที่ไม่ได้จ่ายเงิน แต่พวกเราทำงานหนักทั้งวันทั้งคืนด้วยความยากลำบาก เพื่อที่พวกเราจะได้ไม่เป็นภาระของใครในพวกท่าน9พวกเราทำอย่างนี้ไม่ใช่เพราะพวกเราไม่มีอำนาจ แต่พวกเราทำอย่างนี้เพื่อที่จะได้เป็นตัวอย่างแก่พวกท่าน เพื่อที่ท่านจะได้เลียนแบบพวกเรา

10เมื่อพวกเราอยู่กับพวกท่าน พวกเราสั่งพวกท่านว่า "ถ้าใครไม่อยากจะทำงาน คนนั้นก็ไม่ควรกิน"11เพราะพวกเราได้ยินว่ามีบางคนใช้ชีวิตอย่างเกียจคร้านท่ามกลางพวกท่าน พวกเขาไม่ทำงานแต่ชอบยุ่งกับเรื่องของคนอื่น12พวกเราสั่งและเตือนสติคนเช่นนี้ในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า ว่าพวกเขาควรจะทำงานด้วยความสงบและหาเลี้ยงชีพเอง

13แต่ท่าน พี่น้องทั้งหลาย อย่าสูญเสียความตั้งใจในการทำสิ่งที่ถูกต้อง14ถ้ามีคนที่ไม่ได้เชื่อฟังคำพูดของพวกเราในจดหมายฉบับนี้ ให้หมายหัวเขาไว้และอย่าไปคบค้าสมาคมกับเขา เพื่อที่ว่าเขาจะรู้สึกละอาย15อย่าคิดว่าเขาเป็นศัตรู แต่ให้ตักเตือนเขาในฐานะที่เป็นพี่น้อง

16ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสันติสุขประทานสันติสุขแก่พวกท่านในทุกเวลาและทุกสถานการณ์ ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตอยู่กับพวกท่านทุกคน17นี่เป็นการทักทายของข้าพเจ้า เปาโล ด้วยมือของข้าพเจ้าเอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในจดหมายทุกฉบับ นี่เป็นวิธีที่ข้าพเจ้าเขียน18ขอพระคุณแห่งองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของพวกเราดำรงอยู่กับพวกท่านทุกคน

Philemon

1

1จากข้าพเจ้าเปาโล ผู้ถูกจำจองเพื่อพระเยซูคริสต์ กับทิโมธีน้องชายของข้าพเจ้า ถึงฟีเลโมนผู้เป็นเพื่อนและผู้ร่วมงานของพวกเรา2และถึงอัปเฟียน้องสาวของพวกเรา และถึงอารคิปปัสเพื่อนทหารของพวกเรา และถึงคริสตจักรที่ประชุมกันในบ้านของท่าน3ขอพระคุณและสันติสุขจากองค์พระบิดาและจากองค์พระเยซูคริสต์เจ้าจงดำรงอยู่กับพวกท่านเถิด

4ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าเสมอ เมื่อข้าพเจ้าเอ่ยถึงท่านในคำอธิษฐานของข้าพเจ้า5ข้าพเจ้าได้ยินถึงความรักและความเชื่อที่ท่านมีในพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าและเพื่อบรรดาผู้เชื่อทุกคน6ข้าพเจ้าอธิษฐานว่าการสามัคคีธรรมในความเชื่อของท่านจะเกิดผลเป็นความรู้ถึงสิ่งดีทุกอย่างที่อยู่ท่ามกลางพวกเราในพระคริสต์7เพราะว่าข้าพเจ้าได้รับความชื่นชมยินดีและการปลอบโยนอย่างมากเนื่องจากความรักของท่าน เพราะหัวใจของผู้เชื่อทั้งหลายได้รับการทำให้แช่มชื่นเนื่องจากท่าน

8ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้ว่าข้าพเจ้ามีความกล้าทุกอย่างในพระคริสต์เพื่อสั่งท่านให้ทำในสิ่งที่ท่านสมควรทำ9แต่เนื่องจากความรัก ข้าพเจ้าจึงร้องขอพวกท่านแทน ข้าพเจ้าเปาโล ชายชราคนหนึ่ง และตอนนี้เป็นนักโทษคนหนึ่งที่ถูกจำจองเพื่อพระเยซูคริสต์

10ข้าพเจ้าขอร้องท่านเกี่ยวกับบุตรของข้าพเจ้าที่ชื่อว่า โอเนสิมัส ข้าพเจ้าได้เป็นบิดาของเขาขณะที่ข้าพเจ้าติดโซ่ตรวนอยู่11ครั้งหนึ่งเขาเคยไม่เป็นประโยชน์อันใดต่อท่าน แต่บัดนี้เขาเป็นประโยชน์ทั้งต่อท่านและต่อข้าพเจ้า12ข้าพเจ้าได้ส่งเขากลับมาหาท่าน เขาผู้ซึ่งเป็นดวงใจของข้าพเจ้า13ข้าพเจ้าปรารถนาว่าข้าพเจ้าสามารถสงวนเขาเอาไว้กับข้าพเจ้า เพื่อปรนนิบัติข้าพเจ้าแทนท่าน ในขณะที่ข้าพเจ้ายังติดโซ่ตรวนเพื่อเห็นแก่ข่าวประเสริฐนี้

14แต่ข้าพเจ้าไม่อยากทำสิ่งใดโดยปราศจากการยินยอมจากท่านก่อน ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้การกระทำดีของท่านเป็นการจำใจต้องทำแต่ให้มาจากความตั้งใจที่ดี15บางทีเพื่อสิ่งนี้ เขาจึงต้องถูกแยกจากท่านเพียงชั่วคราว เพื่อว่าท่านจะได้เขาคืนกลับไปชั่วนิรันดร์16เขาจึงไม่ได้เป็นทาสคนหนึ่งอีกต่อไป แต่ดียิ่งกว่านั้นคือเป็นพี่น้องผู้เป็นที่รัก เขาเป็นที่รักโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับข้าพเจ้า และยิ่งเป็นที่รักมากกว่าสำหรับท่านทั้งในทางกายภาพและในองค์พระผู้เป็นเจ้า

17และถ้าหากพวกท่านยอมรับข้าพเจ้าเป็นเพื่อนร่วมพันธกิจของท่าน จงยอมรับเขาเหมือนอย่างยอมรับข้าพเจ้า18ถ้าหากเขาทำผิดสิ่งใดต่อพวกท่าน หรือติดค้างสิ่งใดกับท่าน ขอมารับการชดใช้คืนจากข้าพเจ้าเถิด19ข้าพเจ้าเปาโลเขียนสิ่งนี้ด้วยลายมือของข้าพเจ้าเองว่า ข้าพเจ้าจะจ่ายคืนให้กับท่าน โดยไม่กล่าวถึงสิ่งที่ท่านได้ติดค้างต่อข้าพเจ้ารวมทั้งตัวท่านเอง20นี่แน่ะ น้องเอ๋ย ขอทำให้ข้าพเจ้าเป็นที่โปรดปรานในองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด ให้ใจของข้าพเจ้าได้แช่มชื่นในพระคริสต์เถิด

21ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในการเชื่อฟังของท่าน ข้าพเจ้าจึงเขียนหาท่าน ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านจะทำมากยิ่งกว่าที่ข้าพเจ้าขอ22พร้อมกันนี้ข้าพเจ้าขอท่านจัดเตรียมห้องพักสำหรับข้าพเจ้าด้วย เพราะข้าพเจ้าหวังว่าโดยผ่านทางคำอธิษฐานของพวกท่าน ข้าพเจ้าจะได้รับการปล่อยตัวให้กลับไปหาพวกท่านอีก

23เอปราฟัส เพื่อนผู้ถูกจำจองในพระคริสต์ร่วมกันกับข้าพเจ้าได้ฝากความคิดถึงมายังท่าน24รวมถึงมาระโก อาริสทารคัส เดมาส และลูกา ผู้เป็นเพื่อนร่วมงานกับข้าพเจ้าก็ฝากความคิดถึงมาด้วย25ขอพระคุณขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าจงดำรงอยู่กับวิญญาณจิตของพวกท่านเถิด อาเมน

James

1

1จากยากอบ ผู้รับใช้ของพระเจ้าและขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า ถึงชนสิบสองเผ่าที่กระจัดกระจายอยู่ พี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า2เมื่อพวกท่านต้องประสบกับความทุกข์ลำบากต่างๆ นั้น ขอพวกท่านจงถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี3พวกท่านรู้ว่าการทดสอบความเชื่อของพวกท่านจะก่อให้เกิดความอดทน

4ขอให้อดทนจนถึงที่สุด เพื่อเมื่อพวกท่านได้รับการพัฒนาและสร้างให้สมบูรณ์แล้ว พวกท่านก็จะไม่ขาดสิ่งใดๆ เลย5แต่ถ้าหากคนใดในพวกท่านต้องการสติปัญญาก็ให้เขาทูลขอจากพระเจ้าผู้ซึ่งประทานให้ด้วยใจกว้างขวางและไม่ต่อว่าทุกคนที่ทูลขอต่อพระองค์ แต่จะประทานให้แก่เขา

6แต่ให้เขาทูลขอด้วยความเชื่อโดยไม่สงสัยเลย เพราะใครก็ตามที่สงสัยก็เหมือนคลื่นในทะเลที่ถูกซัดโดยลมและไม่อยู่นิ่ง7เพราะคนเช่นนั้นต้องไม่คิดเลยว่าเขาจะได้รับสิ่งใดๆ จากพระเจ้า8เป็นคนสองใจที่ไม่แน่นอนในทางทั้งปวงของเขา

9ให้พี่น้องที่ยากจนโอ้อวดฐานะที่สูงส่งของเขา10และให้พี่น้องที่ร่ำรวยโอ้อวดฐานะที่ต่ำต้อยของเขา เพราะเขาจะต้องล่วงลับไปเหมือนกับดอกหญ้า11เพราะดวงตะวันฉายแสงอันแรงกล้าและแผดเผาต้นหญ้าให้เหี่ยวแห้ง ทำให้ดอกไม้ร่วงหล่นจากต้นและความงดงามของมันก็สูญสลายฉันใด คนร่ำรวยก็จะค่อยๆสูญสลายไปในระหว่างเส้นทางชีวิตของเขาฉันนั้น

12พระพรเป็นของคนที่ยอมอดทนต่อการทดสอบ เพราะหลังจากที่เขาผ่านการทดสอบแล้ว เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิตตามพระสัญญาที่มีให้ไว้แก่บรรดาคนที่รักพระเจ้า13อย่าให้คนใดกล่าวเมื่อเขาถูกทดลองว่า "ข้าพเจ้าถูกพระเจ้าทดลอง" เพราะพระเจ้าไม่ได้ถูกทดลองโดยความชั่วหรือพระองค์ก็ไม่ทดลองผู้ใดเลย

14แต่ละคนนั้นถูกทดลองด้วยความปรารถนาชั่วของตัวเองซึ่งดึงเขาออกไปและชักจูงเขาให้หลงผิด15เมื่อมีการปฏิสนธิความปรารถนาชั่ว ในที่สุดก็จะคลอดความบาปออกมา และหลังจากความบาปเติบโตเต็มที่ก็จะให้กำเนิดความตาย16อย่าถูกหลอกลวงเลย พี่น้องที่รักทั้งหลายของข้าพเจ้า

17ของประทานอันดีและสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างมาจากเบื้องบน ซึ่งประทานลงมาจากพระบิดาแห่งดวงสว่างทั้งหลาย พระองค์มิได้ทรงเปลี่ยนแปลงหรือไม่ผันแปรเหมือนกับเงา18พระเจ้าเลือกให้เราถือกำเนิดโดยพระวจนะแห่งความจริง เพื่อพวกเราจะเป็นผลแรกของสรรพสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้าง

19พี่น้องที่รักทั้งหลาย พวกท่านรู้เรื่องนี้ดี ขอให้ทุกคนไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ20เพราะความโกรธของมนุษย์ไม่ได้ทำให้เกิดความชอบธรรมของพระเจ้า21ด้วยเหตุนี้จงขจัดความบาปโสมมและความชั่วมากมายออกไปเสีย จงถ่อมใจรับเอาพระวจนะที่ปลูกฝังเอาไว้ที่สามารถช่วยจิตวิญญาณของพวกท่านให้รอดได้

22จงเป็นผู้กระทำตามพระวจนะมิใช่เป็นเพียงแค่ผู้ฟังซึ่งเป็นการหลอกลวงตัวเอง23เพราะคนใดที่เป็นผู้ฟังพระวจนะแต่ไม่เป็นผู้กระทำตาม เขาก็เป็นเหมือนคนที่ส่องกระจกเพื่อดูหน้าของตัวเอง24เขาดูหน้าของตัวเองแล้วก็ไป ในทันใดเขาก็ลืมว่าหน้าตาของเขาเป็นแบบไหน25แต่คนที่พินิจอย่างละเอียดในพระบัญญัติแห่งเสรีภาพที่สมบูรณ์พร้อมและกระทำตาม เขาจึงไม่ได้เป็นเพียงผู้ฟังที่หลงลืม เขาจะได้รับการอวยพรในการกระทำของเขา

26ถ้าหากคนใดคิดว่าเขาเป็นคนเคร่งในศาสนา แต่เขากลับมิได้ควบคุมลิ้นของตัวเอง เขาก็หลอกลวงหัวใจของเขา และการเคร่งในศาสนาของเขาก็ไม่มีค่าอะไรเลย27การนับถือศาสนาที่สะอาดและไม่ด่างพร้อยต่อหน้าพระเจ้าและพระบิดาของเราคือ การช่วยเหลือผู้ที่กำพร้าพ่อและผู้ที่เป็นหญิงม่ายให้หลุดพ้นจากความทุกข์ของพวกเขา และด้วยการรักษาตนเองให้ปราศจากมลทินของโลกนี้

2

1พี่น้องของข้าพเจ้า อย่ายึดมั่นในความเชื่อในองค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งพระสิริโดยที่มีใจลำเอียงต่อผู้คน2สมมติว่ามีคนเข้ามาในการประชุมของท่านที่สวมแหวนทองคำและใส่เสื้อผ้าเนื้อดี และก็มีคนยากจนที่ใส่เสื้อผ้าสกปรกเข้ามาด้วยเหมือนกัน3ถ้าหากพวกท่านมองคนที่ใส่เสื้อผ้าเนื้อดีแล้วกล่าวว่า "ขอท่านนั่งในที่อันมีเกียรตินี้เถิด" แต่กล่าวกับคนยากจนว่า "จงไปยืนอยู่ตรงนั้น" หรือ "จงนั่งที่พื้นแทบเท้าของฉันนี้"4อย่างนี้ท่านไม่ได้ตัดสินกันในพวกท่านหรือ? พวกท่านไม่ได้ตัดสินด้วยความคิดชั่วร้ายหรอกหรือ?

5จงฟังเถิดพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า พระเจ้าไม่ได้เลือกคนยากจนของโลกนี้ให้กลายเป็นคนมั่งคั่งในความเชื่อและให้เป็นผู้รับมรดกในราชอาณาจักรตามที่พระองค์สัญญาไว้กับคนที่รักพระองค์หรือ?6แต่พวกท่านกลับดูถูกคนยากจน ก็ไม่ใช่พวกคนมั่งมีหรือที่ข่มเหงพวกท่าน? ก็คือพวกเขาไม่ใช่หรือที่ลากพวกท่านไปขึ้นศาล?7ก็พวกเขาไม่ใช่หรือที่ดูถูกพระนามประเสริฐของพระองค์ผู้ที่เป็นเจ้าของพวกท่าน?

8แต่ถ้าพวกท่านทำตามกฎบัญญัติอย่างซื่อสัตย์ตามที่พระคัมภีร์กล่าวเอาไว้ว่า "พวกท่านจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง" พวกท่านก็ทำได้ดีแล้ว9แต่ถ้าพวกท่านมีใจลำเอียงต่อผู้คน พวกท่านก็กำลังทำบาป และกฎบัญญัติก็แจ้งในจิตสำนึกของพวกท่านว่าพวกท่านเป็นพวกละเมิดกฎบัญญัติ

10เพราะใครก็ตามที่ทำตามกฎบัญญัติทั้งหมดแต่ได้ผิดพลาดไปในหนึ่งเรื่องก็กลายเป็นคนผิดที่ละเมิดกฎบัญญัติทั้งหมด11เพราะคนที่พูดว่า "อย่าล่วงประเวณี" ก็ได้พูดด้วยว่า "อย่าฆ่าคน" ถ้าหากพวกท่านไม่ล่วงประเวณีแต่ได้ฆ่าคน พวกท่านก็กลายเป็นคนที่ละเมิดกฎบัญญัติทั้งหมด

12ดังนั้นจงพูดและกระทำเหมือนกับคนที่จะได้รับการพิพากษาโดยกฎแห่งเสรีภาพ13เพราะการพิพากษานั้นมาถึงโดยปราศจากความเมตตาต่อคนที่ไม่สำแดงความเมตตา ความเมตตามีชัยชนะเหนือการพิพากษา

14พี่น้องของข้าพเจ้า จะดีแค่ไหน ถ้ามีบางคนพูดว่าเขามีความเชื่อแต่เขาไม่สำแดงเป็นการกระทำอะไรเลย? ความเชื่อนั้นก็ไม่สามารถช่วยเขาให้รอดได้ใช่ไหม?15สมมติถ้ามีพี่น้องชายหรือหญิงคนหนึ่งขาดแคลนเสื้อผ้าและไม่มีอาหารรับประทาน16แล้วมีคนหนึ่งในพวกท่านพูดกับพวกเขาว่า "จงไปเป็นสุขเถิด จงอยู่อย่างอบอุ่น และเต็มบริบูรณ์เถิด" ถ้าพวกท่านไม่หยิบยื่นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกายให้แก่พวกเขา การทำอย่างนั้นจะเกิดผลดีอย่างไรหรือ?17ในทำนองเดียวกัน ความเชื่อก็เป็นเช่นนั้น ถ้าหากไม่สำแดงออกเป็นการกระทำ ก็เป็นความเชื่อที่ตายแล้ว

18บางคนอาจพูดว่า "ท่านมีความเชื่อ ส่วนข้าพเจ้ามีการกระทำ" ขอแสดงให้ข้าพเจ้าเห็นถึงความเชื่อที่ปราศจากการกระทำของพวกท่าน แล้วข้าพเจ้าจะแสดงให้พวกท่านเห็นถึงความเชื่อที่สำแดงออกเป็นการกระทำของข้าพเจ้า19พวกท่านเชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียว พวกท่านก็ถูกแล้ว แต่แม้แต่มารซาตานก็เชื่ออย่างนั้น และพวกมันก็กลัวจนตัวสั่น20คนเขลาเอ๋ย พวกท่านอยากรู้ไหมว่า ความเชื่อที่ไม่สำแดงออกเป็นการกระทำก็ไร้ประโยชน์?

21อับราฮัมผู้เป็นบิดาของพวกเราก็ไม่ได้เป็นผู้ชอบธรรมโดยการกระทำเมื่อเขาถวายบุตรชายคนเดียวของเขาที่แท่นบูชาหรอกหรือ?22พวกท่านเห็นแล้วว่าความเชื่อทำงานด้วยกันกับการกระทำของเขาและโดยการกระทำของเขาทำให้ความเชื่อของเขาได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์23พระคัมภีร์ก็สำเร็จตามที่กล่าวว่า "อับราฮัมเชื่อพระเจ้า และนั่นทำให้เขาถูกนับว่าเป็นผู้ชอบธรรม" และเขาถูกเรียกว่าเป็นสหายของพระเจ้า24พวกท่านเห็นแล้วว่าโดยการกระทำนั้นทำให้มนุษย์คนหนึ่งถูกทำให้เป็นผู้ชอบธรรม ไม่ใช่ด้วยความเชื่อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

25ในทำนองเดียวกัน ราหับผู้เป็นหญิงโสเภณีก็ได้กลายเป็นคนชอบธรรมเมื่อเธอต้อนรับผู้สื่อสารและส่งพวกเขาให้หนีไปอีกทางหนึ่งไม่ใช่หรือ?26เพราะร่างกายเมื่อแยกออกจากวิญญาณก็ตายแล้วฉันใด ความเชื่อที่แยกออกจากการกระทำก็ตายแล้วเหมือนกันฉันนั้น

3

1พี่น้องของข้าพเจ้าเอ๋ย ไม่ควรมีหลายคนที่ได้เป็นครูผู้สอน พวกเรารู้ว่าผู้สอนจะได้รับการพิพากษาที่เข้มงวดมากยิ่งกว่าคนอื่น2เพราะพวกเราทุกคนล้วนทำผิดพลาดได้หลายอย่าง ถ้าหากคนใดไม่ทำผิดพลาดทางวาจาเลย เขาก็เป็นคนที่ได้รับการสร้างให้เติบโตอย่างสมบูรณ์และสามารถควบคุมทั้งร่างกายของเขาได้

3ถ้าเอาบังเหียนครอบปากม้าได้ พวกเราก็จะสามารถควบคุมร่างกายทั้งหมด4หรือเรือใหญ่ แม้ว่ามันจะลำใหญ่และแล่นไปได้ด้วยลมแรง กระนั้นมันก็ยังถูกบังคับด้วยหางเสือเล็กๆ อันหนึ่งที่ทำให้มันแล่นไปทางไหนตามใจของคนที่คุมหางเสือนั้น

5ลิ้นก็เช่นเดียวกัน เป็นอวัยวะเล็กแต่โอ้อวดเรื่องใหญ่ ขอคิดดูเถิดว่า ประกายไฟเพียงนิดเดียวสามารถทำให้ทั้งป่าใหญ่มอดไหม้ได้6ลิ้นก็เป็นเช่นไฟ เป็นโลกแห่งความบาปชั่วที่อยู่ท่ามกลางอวัยวะในร่างกายของพวกเรา มันทำให้ทั้งร่างกายด่างพร้อย และทำให้ชีวิตลุกเป็นไฟ และตัวมันเองก็ลุกด้วยไฟจากนรก

7เพราะบรรดาสัตว์ป่า นกในอากาศ สัตว์เลื้อยคลาน และสิ่งทรงสร้างในทะเลนั้นมนุษย์สามารถฝึกให้เชื่องได้8แต่สำหรับลิ้นแล้ว ไม่มีมนุษย์คนใดที่สามารถทำให้มันเชื่องได้ มันเป็นความชั่วร้ายที่ไม่สามารถควบคุมได้ เต็มไปด้วยพิษแห่งความตาย

9ด้วยลิ้นนั้นเราสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระบิดา และด้วยลิ้นเดียวกันนั้นเราก็แช่งด่ามนุษย์ผู้ซึ่งถูกสร้างมาตามพระลักษณะของพระเจ้า10ทั้งคำอวยพรและคำแช่งสาปก็ออกมาจากปากเดียวกัน พี่น้องของข้าพเจ้าเอ๋ย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่สมควรเกิดขึ้นเลย

11น้ำที่มีรสหวานและรสขมก็ไม่ได้พลุ่งออกมาจากบ่อน้ำพุเดียวกันมิใช่หรือ?12พี่น้องเอ๋ย ต้นมะเดื่อก็ไม่สามารถออกผลเป็นมะกอกได้ใช่ไหม? หรือเถาองุ่นก็ไม่สามารถออกผลเป็นมะเดื่อได้ด้วยจริงหรือไม่? บ่อน้ำเค็มก็ไม่สามารถผลิตน้ำที่มีรสหวานได้

13ใครคือคนที่ฉลาดและมีความเข้าใจในท่ามกลางพวกท่านหรือ? ก็ให้คนนั้นสำแดงชีวิตที่ดีออกมาเป็นการงานแห่งความถ่อมใจและมีสติปัญญาเถิด14แต่ถ้าหัวใจของพวกท่านเต็มไปด้วยความขมแห่งความริษยาและมักใหญ่ใฝ่สูงแล้ว ก็อย่าโอ้อวดหรือมุสาต่อต้านความจริงเลย

15นี่ไม่ใช่สติปัญญาที่ลงมาจากเบื้องบน แต่มาจากโลกนี้ ไม่ใช่อยู่ฝ่ายวิญญาณ และถูกควบคุมโดยปีศาจ16เพราะที่ใดก็ตามที่มีความอิจฉาริษยาและความมักใหญ่ใฝ่สูง ที่นั่นก็จะมีความสับสนและการกระทำอันชั่วร้ายทุกอย่าง17แต่สติปัญญาที่มาจากเบื้องบนนั้นมีความบริสุทธิ์เป็นอันดับแรก จากนั้นจึงเป็นสันติสุข ความอ่อนสุภาพ การตอบสนอง เต็มไปด้วยความเมตตาและผลอันดี ไม่อ่อนกำลัง และจริงใจ18และผลของความชอบธรรมนั้นถูกหว่านลงในสันติสุขท่ามกลางคนเหล่านั้นที่สร้างสันติ

4

1การทะเลาะวิวาทและโต้เถียงกันท่ามกลางพวกท่านนั้นมาจากแหล่งใดหรือ? ไม่ได้มาจากความปรารถนาชั่วของพวกท่านที่ต่อสู้กันเองในท่ามกลางสมาชิกของพวกท่านหรืออย่างไร?2พวกท่านปรารถนาและพวกท่านไม่ได้รับ พวกท่านเข่นฆ่าและอยากได้ของของคนอื่น พวกท่านไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ พวกท่านก็ต่อสู้และทะเลาะวิวาทกัน พวกท่านไม่ได้เป็นเจ้าของก็เพราะว่าพวกท่านไม่ได้ขอ3พวกท่านขอและไม่ได้รับก็เพราะพวกท่านขออย่างเลวร้าย คือ ขอไปเพื่อใช้ตอบสนองความปรารถนาชั่วของพวกท่าน

4พวกท่านเป็นหญิงเล่นชู้ พวกท่านไม่รู้หรือว่าการเป็นมิตรกับโลกนี้ก็คือการเป็นศัตรูต่อต้านพระเจ้า? ด้วยเหตุนี้ใครก็ตามที่ต้องการเป็นมิตรกับโลกนี้ก็ทำตัวให้เป็นศัตรูของพระเจ้า5หรือพวกท่านคิดว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นกล่าวอย่างไร้ประโยชน์ว่า "พระวิญญาณที่พระองค์ประทานให้อยู่ภายในพวกเรานั้นมีความหึงหวงอย่างรุนแรง?"

6แต่พระเจ้าประทานพระคุณที่มากขึ้น ดังที่พระคัมภีร์กล่าวเอาไว้ว่า "พระเจ้าต่อสู้ผู้ที่หยิ่งจองหอง แต่ประทานพระคุณให้แก่คนที่ถ่อมใจ"7ดังนั้นจงยอมจำนนต่อพระเจ้า จงต่อสู้กับมารและมันจะหนีไปจากพวกท่าน

8จงเข้ามาใกล้พระเจ้า และพระองค์จะเข้ามาใกล้พวกท่าน พวกท่านผู้เป็นคนบาป จงชำระมือของพวกท่านให้สะอาด พวกท่านคนสองใจ จงให้หัวใจของพวกท่านให้บริสุทธิ์9จงโศกเศร้า คร่ำครวญ และร้องไห้ จงให้คนที่หัวเราะเปลี่ยนเป็นร้องไห้ และคนที่ชื่นชมยินดีเปลี่ยนเป็นคร่ำครวญ10จงถ่อมใจลงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์จะยกชูพวกท่านขึ้น

11พี่น้องเอ๋ย อย่าพูดต่อต้านกันและกัน คนที่พูดต่อต้านพี่น้องของเขาหรือตัดสินพี่น้องของเขาก็ต่อต้านกฎบัญญัติและตัดสินกฎบัญญัติ ถ้าพวกท่านตัดสินกฎบัญญัติ พวกท่านก็ไม่ได้เป็นผู้ทำตามกฎบัญญัติ แต่เป็นผู้ตัดสิน12มีเพียงผู้เดียวที่ประทานกฎบัญญัติและตัดสินได้ พระองค์คือผู้นั้นที่สามารถให้ชีวิตและทำลายชีวิตได้ แล้วพวกท่านเป็นใครหรือที่จะมาตัดสินเพื่อนบ้านของพวกท่านอย่างนั้นหรือ?

13บัดนี้จงฟัง พวกท่านผู้กล่าวว่า "วันนี้หรือพรุ่งนี้ พวกเราจะเข้าไปในเมืองนี้ ใช้เวลาหนึ่งปีที่นั่นเพื่อค้าขายและทำกำไร"14ใครจะรู้หรือว่าวันพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น และชีวิตของพวกท่านจะเป็นอย่างไร? เพราะพวกท่านเป็นหมอกที่ปรากฎในช่วงเวลาสั้นๆ และจากนั้นก็จางหายไป

15แทนที่จะเป็นอย่างนั้น พวกท่านสมควรกล่าวว่า "ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าปรารถนา พวกเราจะมีชีวิตอยู่และทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น"16แต่ตอนนี้พวกท่านกำลังโอ้อวดแผนงานแห่งความจองหองของพวกท่าน การโอ้อวดทั้งหมดเป็นความชั่วร้าย17ดังนั้นใครก็ตามที่รู้ว่าทำดีอย่างไรแล้วไม่ทำ เขาก็ทำบาป

5

1บัดนี้จงมาเถิด พวกท่านผู้มั่งคั่ง จงร้องไห้และคร่ำครวญเพราะความลำเค็ญจะมาถึงพวกท่าน2ความมั่งคั่งของพวกท่านได้ถูกทำให้เสื่อมทราม และเสื้อผ้าของพวกท่านถูกแมลงกัดกิน3ทองและเงินของพวกท่านถูกทำให้สึกกร่อน การสึกกร่อนเหล่านั้นจะเป็นพยานต่อต้านพวกท่าน มันจะเป็นเหมือนดั่งไฟเผาผลาญเนื้อหนังของพวกท่าน พวกท่านได้สะสมทรัพย์สมบัติของพวกท่านเพื่อวาระสุดท้าย

4ดูเถิด ค่าจ้างของคนงานก็ส่งเสียงร้องดัง ค่าจ้างที่พวกท่านได้ยึดไว้จากคนงานเก็บเกี่ยวในทุ่งนาของพวกท่าน เสียงร้องของผู้เก็บเกี่ยวก็ดังไปถึงพระกรรณขององค์พระเจ้าจอมเจ้านาย5พวกท่านได้ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยในโลกนี้และปล่อยตัวตามใจปรารถนาของพวกท่าน พวกท่านบำรุงเลี้ยงหัวใจของพวกท่านเพื่อมาถึงวันประหาร6พวกท่านได้กล่าวโทษและประหารผู้ชอบธรรมโดยที่เขาไม่ได้ต่อต้านพวกท่านเลย

7พี่น้องเอ๋ย ดังนั้นจงอดทนจนกว่าจะถึงวันแห่งการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ดูเถิด ชาวนาทั้งหลายต่างก็รอคอยการเก็บเกี่ยวอย่างคุ้มค่าจากผืนแผ่นดิน เขารอคอยด้วยความอดทนจนกระทั่งผืนดินจะได้รับฝนต้นฤดูและฝนปลายฤดู8พวกท่านเองก็เช่นเดียวกัน จงอดทน จงทำให้ใจของพวกท่านเข้มแข็ง เพราะการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็เข้ามาใกล้แล้ว

9พี่น้องเอ๋ย อย่าบ่นว่า อย่าต่อต้านกันและกัน เพื่อพวกท่านจะไม่ถูกพิพากษา ดูเถิด การพิพากษานั้นยืนรออยู่ที่ประตู10พี่น้องทั้งหลาย จงเอาการทนทุกข์และการอดทนของบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้ที่กล่าวในนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นตัวอย่างเถิด11พวกเรานับถือบรรดาคนเหล่านั้นที่อดทนว่าเป็นผู้ที่ได้รับพร พวกท่านได้ยินถึงความอดทนของโยบ และพวกท่านรู้ถึงพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่าพระองค์มีความเมตตาและสงสารมากเพียงใด

12เหนือสิ่งอื่นใด พี่น้องของข้าพเจ้า จงอย่าสาบาน ไม่ว่าจะโดยอ้างถึงฟ้าสวรรค์หรือแผ่นดินโลก หรือโดยคำสัตย์ปฏิญาณอื่นใด "ใช่" ก็หมายถึง "ใช่" และ คำว่า "ไม่" ของท่านก็จงหมายถึง "ไม่" เพื่อพวกท่านจะไม่ตกอยู่ภายใต้การพิพากษา

13มีผู้ใดในพวกท่านที่ทนทุกข์ลำบากหรือ? จงให้เขาอธิษฐาน มีผู้ใดที่ชื่นชมยินดีหรือ? จงให้เขาร้องเพลงสรรเสริญ14มีผู้ใดในพวกท่านที่เจ็บป่วยหรือ? จงให้เขาเรียกบรรดาผู้ปกครองของคริสตจักร และให้พวกเขาอธิษฐานเผื่อ เจิมเขาด้วยน้ำมันในนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า15คำอธิษฐานแห่งความเชื่อจะรักษาคนป่วย และพระเจ้าจะทำให้เขาลุกขึ้นได้ ถ้าเขาทำบาป พระเจ้าจะยกโทษให้แก่เขา

16ดังนั้นจงสารภาพบาปต่อกันและกัน และอธิษฐานเผื่อกันและกัน เพื่อพวกท่านจะได้รับการรักษา คำอธิษฐานของคนหนึ่งที่ชอบธรรมมีพลังอย่างเข้มแข็งมาก17เอลียาห์เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เหมือนกับพวกเรา เขาได้อธิษฐานอย่างร้อนรนเพื่อไม่ให้ฝนตก และฝนก็ไม่ตกลงมารดแผ่นดินเป็นเวลาสามปีกับหกเดือน18และเอลียาห์ได้อธิษฐานอีกครั้ง ฟ้าสวรรค์ก็ให้ฝนลงมา และแผ่นดินก็เกิดดอกออกผล

19พี่น้องของข้าพเจ้า ถ้าหากคนใดในท่ามกลางพวกท่านหันเหไปจากความจริง และมีบางคนนำเขากลับคืนมา20ก็ให้คนนั้นรู้ว่าผู้ที่นำคนบาปคนหนึ่งกลับคืนมาจากวิถีที่หันเหของเขาก็จะช่วยเขาให้รอดพ้นจากความตาย และจะปกปิดความบาปมากมายเอาไว้ได้

2 Peter

1

1จากซีโมนเปโตร ผู้เป็นทาสและอัครทูตของพระเยซูคริสต์ ถึงบรรดาคนเหล่านั้นที่ได้รับความเชื่ออันมีค่าเช่นเดียวกับที่พวกเราได้รับ คือความเชื่อในความชอบธรรมของพระเจ้าและพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของพวกเรา2ขอพระคุณและสันติสุขจงเพิ่มพูนขึ้นในการมีความรู้ถึงพระเจ้าและพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา

3ทุกสิ่งเกี่ยวกับฤทธิ์เดชของพระเจ้าสำหรับชีวิตและการดำเนินตามทางพระเจ้าได้ประทานมาให้แก่พวกเราโดยผ่านการมีความรู้ของพระเจ้า ผู้ได้ทรงเรียกเราด้วยพระสิริและความดีเลิศของพระองค์4โดยผ่านทางสิ่งเหล่านี้ พระองค์ได้ประทานพระสัญญาอันประเสริฐและยิ่งใหญ่แก่พวกเรา เพื่อว่าพวกท่านจะมีส่วนในพระลักษณะของพระเจ้า เมื่อพวกท่านได้หลีกหนีจากความเสื่อมโทรมที่มีอยู่ในโลกนี้เพราะความปรารถนาต่างๆ ที่ชั่วร้าย

5เพราะเหตุผลนี้ พวกท่านจงทำอย่างดีที่สุดเพื่อเพิ่มความดีเข้ากับความเชื่อของพวกท่าน เพิ่มความรู้เข้ากับความดี6เพิ่มการบังคับตนเข้ากับความรู้ เพิ่มความอดทนเข้ากับการบังคับตน เพิ่มการดำเนินในทางของพระเจ้าเข้ากับความอดทน7เพิ่มความรักฉันพี่น้องเข้ากับการดำเนินในทางของพระเจ้า และเพิ่มความรักเข้ากับความรักฉันพี่น้อง

8ถ้าสิ่งเหล่านี้อยู่ในพวกท่านและเติบโตภายในพวกท่าน พวกท่านจะไม่เป็นหมันหรือไม่เกิดผลในการมีความรู้ของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา9แต่ผู้ใดที่ขาดสิ่งเหล่านี้ ก็เป็นคนที่ตาบอดตาสั้น ลืมไปว่าเขาได้รับการชำระจากความผิดบาปทั้งหลายในอดีตของเขาแล้ว

10เพราะฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย จงทำอย่างดีที่สุดเพื่อให้การทรงเรียกและการทรงเลือกของพวกท่านมั่นคง เพราะถ้าพวกท่านทำสิ่งเหล่านี้ พวกท่านจะไม่สะดุดล้ม11เพราะโดยวิธีนี้ จะมีการจัดเตรียมอย่างสมบูรณ์สำหรับพวกท่านเพื่อจะเข้าในราชอาณาจักรนิรันดร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าและพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของพวกเรา

12เหตุฉะนั้น ข้าพเจ้าพร้อมเสมอที่จะเตือนสติพวกท่านถึงสิ่งเหล่านี้ แม้ว่าท่านรู้สิ่งเหล่านี้แล้ว และถึงแม้ว่าพวกท่านเข้มแข็งอยู่ในความจริงที่พวกท่านมีในเวลานี้ก็ตาม13เป็นการเหมาะสมที่ข้าพเจ้าจะคิด จะกระตุ้นพวกท่านให้ระลึกถึง ตราบเท่าที่ข้าพเจ้ายังอาศัยอยู่ในเต็นท์นี้14เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าอีกไม่ช้าข้าพเจ้าก็จะต้องสละทิ้งเต็นท์ของข้าพเจ้าไป ดังที่พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าแล้ว15ข้าพเจ้าจะพยายามในทุกหนทางเพื่อจะได้เห็นพวกท่านยังคงระลึกถึงสิ่งเหล่านี้เสมอแม้หลังจากที่ข้าพเจ้าจากไปแล้ว

16เพราะพวกเรามิได้คล้อยตามเรื่องโกหกที่ถูกแต่งไว้อย่างเฉลียวฉลาดเมื่อพวกเราบอกพวกท่านเกี่ยวกับฤทธิ์เดชและการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา แต่พวกเราได้เห็นอานุภาพของพระองค์ด้วยตาของพวกเราเอง 17เพราะพระองค์ทรงได้รับเกียรติและพระสิริจากพระเจ้าพระบิดาเมื่อมีพระสุรเสียงจากพระองค์ผู้ทรงพระสิริอันยิ่งใหญ่มาถึงพระองค์ว่า "ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราพอใจท่านผู้นี้มาก"18พวกเราได้ยินพระสุรเสียงนี้จากสวรรค์ด้วยตัวของพวกเราเอง ในขณะที่พวกเราได้อยู่กับพระองค์บนภูเขาอันบริสุทธิ์นั้น

19พวกเรามีคำพยากรณ์ที่แน่นอนยิ่งกว่านั้นอีก จะเป็นการดีถ้าท่านทั้งหลายจะเอาใจใส่ต่อคำเหล่านั้น เหมือนตะเกียงที่ส่องสว่างในที่มืด จนกว่าแสงรุ่งอรุณจะขึ้น และดาวประจำรุ่งจะผุดขึ้นในใจของท่านทั้งหลาย20เหนือสิ่งอื่นใด พวกท่านต้องเข้าใจว่า ไม่มีคำเผยพระวจนะใดที่มาจากการตีความหมายเอาเองของใครบางคน21ไม่มีคำเผยพระวจนะใดที่มาจากความประสงค์ของมนุษย์ แต่มนุษย์ได้กล่าวคำซึ่งมาจากพระเจ้าเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลใจเขา

2

1พวกผู้พยากรณ์เท็จได้มายังประชาชน และพวกผู้สอนเท็จจะมาหาพวกท่านด้วยเช่นเดียวกัน พวกเขาจะแอบเอาลัทธินอกรีตอันจะนำไปสู่ความหายนะเข้ามาด้วย และพวกเขาจะปฏิเสธองค์เจ้านายผู้ได้ทรงไถ่พวกเขาไว้ และพวกเขาจะนำความพินาศอย่างฉับพลันมาถึงตนเอง2จะมีหลายคนประพฤติลามกตามอย่างพวกเขา และเพราะคนเหล่านั้นเป็นเหตุ ทางแห่งความจริงจะถูกกล่าวร้าย3และด้วยความโลภ พวกเขาจะกล่าวคำตลบตะแลงเพื่อหาผลประโยชน์จากพวกท่าน การลงโทษคนเหล่านั้นที่ได้ถูกพิพากษานานมาแล้วจะไม่เนิ่นช้า และความหายนะของพวกเขาก็จะไม่หลับไหลไป

4เพราะว่า พระเจ้าไม่ได้ทรงยกเว้นพวกทูตสวรรค์ที่ได้ทำบาปนั้น แต่ได้ทรงผลักพวกเขาลงไปสู่นรก และได้มัดพวกเขาไว้ด้วยเครื่องจองจำแห่งความมืดเบื้องล่างจนกว่าจะถึงวันพิพากษา5เช่นเดียวกัน พระองค์ไม่ได้ทรงยกเว้นโลกสมัยโบราณ แต่ได้ทรงช่วยโนอาห์ผู้ส่งสารแห่งความชอบธรรม พร้อมกับคนอื่นอีกเจ็ดคนให้รอดในคราวที่พระองค์ได้ทรงทำให้น้ำท่วมโลกของคนอธรรมนั้น6พระเจ้าได้ทรงลงโทษเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ให้พินาศเป็นเถ้าถ่านด้วย เพื่อให้เป็นตัวอย่างถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคนที่ประพฤติชั่ว

7แต่อย่างเช่นโลทผู้ชอบธรรม เขาถูกกดขี่โดยการประพฤติลามกของผู้คนที่ไร้ศีลธรรม8ด้วยเหตุนี้ผู้ชอบธรรมคนนั้นซึ่งอาศัยอยู่ในท่ามกลางพวกเขาทุกวัน ต้องทุกข์ทรมานในใจที่ชอบธรรมของเขาเหตุเพราะสิ่งที่เขาได้เห็นและได้ยิน9องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทราบวิธีที่จะช่วยผู้คนที่ดำเนินในทางของพระเจ้าให้รอดพ้นจากการทดลองต่างๆ และทรงทราบวิธีที่จะยึดพวกคนอธรรมไว้เพื่อจะลงโทษพวกเขาในวันแห่งการพิพากษา

10เรื่องนี้เป็นความจริงโดยเฉพาะสำหรับคนเหล่านั้นที่ปล่อยตัวไปตามความปรารถนาอันเสื่อมทรามของเนื้อหนัง และสำหรับคนที่ดูหมิ่นสิทธิอำนาจ คนที่ทะนงตนและประพฤติตามอำเภอใจ พวกเขาไม่หวาดกลัวที่จะกล่าวประณามบรรดาคนที่มีสง่าราศี11พวกทูตสวรรค์มีฤทธิ์และกำลังมากกว่า แต่ก็ไม่ได้กล่าวดูหมิ่นคนเหล่านั้นต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า

12แต่พวกสัตว์เดียรัจฉานที่ปราศจากความคิดเหล่านี้ที่ถูกสร้างมาเพื่อถูกจับและถูกฆ่า พวกเขากล่าวประณามสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจเลย พวกเขาจะถูกทำลาย13พวกเขาจะรับรางวัลของการกระทำผิดของพวกเขา พวกเขาคิดว่าการเสเพลเฮฮาในเวลากลางวันเป็นความเพลิดเพลิน พวกเขาด่างพร้อยและมีมลทิน พวกเขาเพลิดเพลินอยู่กับการกระทำที่หลอกลวงในขณะที่พวกเขากำลังกินเลี้ยงร่วมกับพวกท่าน14ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยราคะตัณหา พวกเขาไม่เคยอิ่มกับการทำบาป พวกเขาล่อลวงคนที่มีจิตใจไม่มั่นคงให้กระทำผิด ใจของพวกเขาชินกับความโลภ พวกเขาเป็นพวกบุตรที่ถูกแช่งสาป

15พวกเขาละทิ้งทางที่ถูกต้อง หลงไปดำเนินตามทางของบาลาอัมบุตรชายเบโอร์ ผู้ที่ชอบรับค่าตอบแทนสำหรับความอธรรม16แต่เขาถูกต่อว่าเพราะการละเมิดของเขาเอง ลาใบ้ตัวนั้นพูดเป็นภาษามนุษย์เพื่อยับยั้งความบ้าคลั่งของผู้พยากรณ์คนนั้น

17คนเหล่านี้เป็นบ่อน้ำพุที่ปราศจากน้ำ เป็นเมฆหมอกที่ถูกพายุพัดไป หมอกแห่งความมืดทึบถูกเตรียมไว้สำหรับพวกเขาแล้ว18พวกเขาพูดเย่อหยิ่งอวดตัว พวกเขาล่อลวงผู้คนด้วยตัณหาแห่งเนื้อหนัง พวกเขาชักชวนผู้ที่พยายามหนีจากคนเหล่านั้นที่หลงประพฤติผิด19พวกเขาสัญญาว่าจะให้คนเหล่านั้นเป็นอิสระ แต่ตัวพวกเขาเองยังเป็นทาสของความเสื่อมโทรม เพราะว่ามนุษย์เป็นทาสของสิ่งที่ครอบงำเขา

20ถ้าหากพวกเขาหนีรอดจากความเสื่อมโทรมของโลกนี้โดนการมีความรู้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าและพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดแล้ว และพวกเขากลับหลงเข้าไปพัวพันและพ่ายแพ้แก่การชั่วนั้นอีก บั้นปลายของพวกเขาก็จะเลวร้ายยิ่งกว่าตอนต้น21เพราะการที่พวกเขาไม่ได้รู้จักทางแห่งความชอบธรรมนั้นก็ยังจะดีกว่าการที่พวกเขาได้รู้แล้วแต่กลับหันหลังให้กับพระบัญญัติอันบริสุทธิ์ที่ประทานมาให้แก่พวกเขา22สุภาษิตนี้เป็นความจริงสำหรับพวกเขาคือ "สุนัขได้กลับไปกินสิ่งที่มันสำรอกออกมาแล้ว และสุกรที่ได้ชำระล้างตัวแล้วแต่กลับไปคลุกนอนในโคลนอีก"

3

1ท่านที่รักทั้งหลาย นี่เป็นจดหมายฉบับที่สองที่ข้าพเจ้าได้เขียนถึงพวกท่าน และจดหมายทั้งสองฉบับนี้เขียนเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจที่ทำให้ความคิดจิตใจอันบริสุทธิ์ของพวกท่านตื่นขึ้น2เพื่อพวกท่านจะได้ระลึกถึงถ้อยคำทั้งหลายที่พวกผู้พยากรณ์บริสุทธิ์ได้กล่าวไว้ในอดีต และระลึกถึงคำบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเราที่ให้ไว้โดยผ่านทางเหล่าอัครทูตของพวกท่าน

3จงรู้ข้อนี้ก่อน คือในวันสุดท้าย จะพวกคนที่ชอบเยาะเย้ยเข้ามา พวกเขาจะเยาะเย้ยและดำเนินตามความปรารถนาของตน4พวกเขาจะกล่าวว่า "คำที่ทรงสัญญาไว้ว่าพระองค์จะเสด็จมานั้นอยู่ที่ไหน?เพราะว่าตั้งแต่บรรพบุรุษล่วงหลับไปแล้ว ทุกสิ่งก็เป็นอยู่เหมือนเดิมตั้งแต่ทรงสร้างโลก”

5พวกเขาจงใจลืมว่าท้องฟ้าและแผ่นดินโลกนั้นเกิดขึ้นจากการแยกออกจากน้ำ โดยพระดำรัสสั่งของพระเจ้านานมาแล้ว6และโดยผ่านทางสิ่งเหล่านี้ โลกในช่วงเวลานั้นก็ได้ถูกทำลายลงด้วยน้ำท่วม7แต่ว่าเดี๋ยวนี้ ทั้งท้องฟ้าและแผ่นดินโลกก็ได้ถูกสงวนไว้สำหรับไฟโดยทางพระดำรัสสั่งอย่างเดียวกัน พวกมันถูกสงวนไว้เพื่อสำหรับวันแห่งการพิพากษาและความพินาศของบรรดาคนอธรรม

8ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าลืมข้อนี้เสีย คือวันเดียวขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเหมือนกับพันปี และพันปีก็เป็นเหมือนกับวันเดียว9องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้าในเรื่องบรรดาพระสัญญาของพระองค์ เหมือนอย่างที่บางคนเฉื่อยช้านั้น แต่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัยต่อพวกท่าน พระองค์ไม่ทรงประสงค์ที่จะให้ผู้หนึ่งผู้ใดในพวกท่านต้องพินาศเลย แต่ทรงให้โอกาสแก่ทุกคนได้กลับใจใหม่

10แต่วันขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้นจะมาถึงเหมือนอย่างขโมย ท้องฟ้าจะหายลับไปด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง และโลกธาตุจะถูกเผาด้วยไฟ และแผ่นดินโลกกับการงานทั้งปวงที่มีอยู่จะถูกเปิดเผย

11เมื่อเห็นแล้วว่าสิ่งทั้งปวงจะต้องสลายไปหมดสิ้นเช่นนี้ พวกท่านควรจะเป็นคนเช่นใด? พวกท่านสมควรมีชีวิตที่บริสุทธิ์และอยู่ในทางของพระเจ้า12พวกท่านควรคอยท่าและเร่งให้วันของพระเจ้ามาถึง ในวันนั้นท้องฟ้าจะถูกทำลายด้วยไฟ และโลกธาตุจะละลายไปด้วยไฟอันร้อนยิ่ง13แต่ว่าตามพระสัญญาของพระองค์นั้น พวกเราจึงคอยท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ ที่ซึ่งความชอบธรรมจะดำรงอยู่

14เพราะฉะนั้น ท่านที่รักทั้งหลาย เมื่อพวกท่านยังคอยสิ่งเหล่านี้อยู่ พวกท่านก็จงให้พระองค์ทรงพบพวกท่านอยู่ในสันติสุข ปราศจากมลทินและข้อตำหนิ15นอกจากนี้ จงถือว่าความอดทนขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเป็นโอกาสที่จะให้คนรอด เช่นเดียวกับเปาโลผู้เป็นน้องชายที่รักของเราที่ได้เขียนถึงพวกท่านด้วยสติปัญญาที่ได้ประทานแก่เขานั้น16เปาโลพูดสิ่งเหล่านี้ไว้ในจดหมายทุกฉบับของเขาซึ่งมีสิ่งต่างๆ ที่เข้าใจยาก พวกคนเขลาและไม่มั่นคงได้บิดเบือนสิ่งต่างๆ เหล่านี้ พวกเขายังทำสิ่งนี้กับพระคัมภีร์ข้ออื่นๆ ด้วย นี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้ตัวพวกเขาพินาศ

17เพราะเหตุนั้น ท่านที่รักทั้งหลาย เมื่อพวกท่านรู้เรื่องนี้ก่อนแล้ว จงปกป้องตัวเองให้ดีเพื่อพวกท่านจะไม่ถูกทำให้หลงผิดตามการหลอกลวงของคนไร้ศีลธรรม และพวกท่านก็จะสูญเสียความสัตย์ซื่อของพวกท่านไป18แต่จงจำเริญขึ้นในพระคุณ และในความรู้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าและพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา ขอสง่าราศีจงมีแด่พระองค์ทั้งในปัจจุบันนี้และตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน