1 จากยากอบ ผู้รับใช้ของพระเจ้าและขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า ถึงชนสิบสองเผ่าที่กระจัดกระจายอยู่ พี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า 2 เมื่อพวกท่านต้องประสบกับความทุกข์ลำบากต่างๆ นั้น ขอพวกท่านจงถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี 3 พวกท่านรู้ว่าการทดสอบความเชื่อของพวกท่านจะก่อให้เกิดความอดทน
4 ขอให้อดทนจนถึงที่สุด เพื่อเมื่อพวกท่านได้รับการพัฒนาและสร้างให้สมบูรณ์แล้ว พวกท่านก็จะไม่ขาดสิ่งใดๆ เลย 5 แต่ถ้าหากคนใดในพวกท่านต้องการสติปัญญาก็ให้เขาทูลขอจากพระเจ้าผู้ซึ่งประทานให้ด้วยใจกว้างขวางและไม่ต่อว่าทุกคนที่ทูลขอต่อพระองค์ แต่จะประทานให้แก่เขา
6 แต่ให้เขาทูลขอด้วยความเชื่อโดยไม่สงสัยเลย เพราะใครก็ตามที่สงสัยก็เหมือนคลื่นในทะเลที่ถูกซัดโดยลมและไม่อยู่นิ่ง 7 เพราะคนเช่นนั้นต้องไม่คิดเลยว่าเขาจะได้รับสิ่งใดๆ จากพระเจ้า 8 เป็นคนสองใจที่ไม่แน่นอนในทางทั้งปวงของเขา
9 ให้พี่น้องที่ยากจนโอ้อวดฐานะที่สูงส่งของเขา 10 และให้พี่น้องที่ร่ำรวยโอ้อวดฐานะที่ต่ำต้อยของเขา เพราะเขาจะต้องล่วงลับไปเหมือนกับดอกหญ้า 11 เพราะดวงตะวันฉายแสงอันแรงกล้าและแผดเผาต้นหญ้าให้เหี่ยวแห้ง ทำให้ดอกไม้ร่วงหล่นจากต้นและความงดงามของมันก็สูญสลายฉันใด คนร่ำรวยก็จะค่อยๆสูญสลายไปในระหว่างเส้นทางชีวิตของเขาฉันนั้น
12 พระพรเป็นของคนที่ยอมอดทนต่อการทดสอบ เพราะหลังจากที่เขาผ่านการทดสอบแล้ว เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิตตามพระสัญญาที่มีให้ไว้แก่บรรดาคนที่รักพระเจ้า 13 อย่าให้คนใดกล่าวเมื่อเขาถูกทดลองว่า "ข้าพเจ้าถูกพระเจ้าทดลอง" เพราะพระเจ้าไม่ได้ถูกทดลองโดยความชั่วหรือพระองค์ก็ไม่ทดลองผู้ใดเลย
14 แต่ละคนนั้นถูกทดลองด้วยความปรารถนาชั่วของตัวเองซึ่งดึงเขาออกไปและชักจูงเขาให้หลงผิด 15 เมื่อมีการปฏิสนธิความปรารถนาชั่ว ในที่สุดก็จะคลอดความบาปออกมา และหลังจากความบาปเติบโตเต็มที่ก็จะให้กำเนิดความตาย 16 อย่าถูกหลอกลวงเลย พี่น้องที่รักทั้งหลายของข้าพเจ้า
17 ของประทานอันดีและสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างมาจากเบื้องบน ซึ่งประทานลงมาจากพระบิดาแห่งดวงสว่างทั้งหลาย พระองค์มิได้ทรงเปลี่ยนแปลงหรือไม่ผันแปรเหมือนกับเงา 18 พระเจ้าเลือกให้เราถือกำเนิดโดยพระวจนะแห่งความจริง เพื่อพวกเราจะเป็นผลแรกของสรรพสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้าง
19 พี่น้องที่รักทั้งหลาย พวกท่านรู้เรื่องนี้ดี ขอให้ทุกคนไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ 20 เพราะความโกรธของมนุษย์ไม่ได้ทำให้เกิดความชอบธรรมของพระเจ้า 21 ด้วยเหตุนี้จงขจัดความบาปโสมมและความชั่วมากมายออกไปเสีย จงถ่อมใจรับเอาพระวจนะที่ปลูกฝังเอาไว้ที่สามารถช่วยจิตวิญญาณของพวกท่านให้รอดได้
22 จงเป็นผู้กระทำตามพระวจนะมิใช่เป็นเพียงแค่ผู้ฟังซึ่งเป็นการหลอกลวงตัวเอง 23 เพราะคนใดที่เป็นผู้ฟังพระวจนะแต่ไม่เป็นผู้กระทำตาม เขาก็เป็นเหมือนคนที่ส่องกระจกเพื่อดูหน้าของตัวเอง 24 เขาดูหน้าของตัวเองแล้วก็ไป ในทันใดเขาก็ลืมว่าหน้าตาของเขาเป็นแบบไหน 25 แต่คนที่พินิจอย่างละเอียดในพระบัญญัติแห่งเสรีภาพที่สมบูรณ์พร้อมและกระทำตาม เขาจึงไม่ได้เป็นเพียงผู้ฟังที่หลงลืม เขาจะได้รับการอวยพรในการกระทำของเขา
26 ถ้าหากคนใดคิดว่าเขาเป็นคนเคร่งในศาสนา แต่เขากลับมิได้ควบคุมลิ้นของตัวเอง เขาก็หลอกลวงหัวใจของเขา และการเคร่งในศาสนาของเขาก็ไม่มีค่าอะไรเลย 27 การนับถือศาสนาที่สะอาดและไม่ด่างพร้อยต่อหน้าพระเจ้าและพระบิดาของเราคือ การช่วยเหลือผู้ที่กำพร้าพ่อและผู้ที่เป็นหญิงม่ายให้หลุดพ้นจากความทุกข์ของพวกเขา และด้วยการรักษาตนเองให้ปราศจากมลทินของโลกนี้
หลังจากคำทักทายของท่าน ยากอบบอกผู้เชื่อว่าจุดประสงค์ของความทุกข์ลำบากก็เพื่อทดสอบความเชื่อ
คำว่า "ข้าพเจ้า...เป็น" สามารถเอามาใช้ได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ข้าพเจ้ายากอบ เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าและขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า"
ยากอบเป็นพี่น้องร่วมกันกับพระเยซู
คำนี้หมายถึงทั้งคริสเตียนที่เป็นคนยิวทั้งหมดที่อาศัยอยู่นอกประเทศอิสราเอล หรืออาจหมายถึงคริสเตียนทั้งหมดที่อาศัยอยู่ทั่วโลกก็ได้ (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
คำว่า "สิบสองเผ่า" ปกติแล้วจะหมายถึงประชากรอิสราเอลทั้งหมด เพราะว่าพวกได้ถูกแบ่งออกเป็นสิบสองเผ่า ในข้อพระคัมภีร์ตอนนี้ คำว่า "สิบสองเผ่า" หมายถึงได้ทั้งคริสเตียนที่เป็นคนยิวทั้งหมด หรืออาจหมายถึงคริสเตียนทั้งปวงที่อยู่ในโลกนี้ก็ได้ คำว่า "สิบสองเผ่า" ในข้อนี้เป็นชื่อเรียก และตัวเลข "สิบสอง" ควรเขียนเป็นตัวอักษรไม่ใช่เขียนเป็นตัวเลข )
คำว่า "กระจัดกระจาย" ปกติแล้วจะหมายถึงคนยิวทั้งหมดที่กระจัดกระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ไกลจากอิสราเอลบ้านเกิดของพวกเขา อย่างไรก็ดี ในข้อนี้ คำว่า "กระจัดกระจาย" หมายถึงทั้งคริสเตียนชาวยิวที่อยู่ภายนอกอิสราเอลทั้งหมด หรืออาจหมายถึงคริสเตียนทุกแห่งในโลกนี้ก็ได้
"เพื่อนผู้เชื่อของข้าพเจ้า ให้คิดว่าความทุกข์ยากแบบต่างๆ ของท่านเป็นเหมือนสิ่งที่น่าเฉลิมฉลอง"
คำว่า "การทดสอบ" "ความเชื่อของท่าน" และ "ความอดทน" เป็นคำนามที่หมายถึงการกระทำ พระเจ้าทรงทดสอบเพื่อค้นดูว่าผู้เชื่อจะไว้วางใจและเชื่อฟังพระองค์มากเพียงไร ผู้เชื่อ ("ท่าน") เชื่อในพระองค์และทนต่อความทุกข์ยาก คำแปลอีกอย่างหนึ่ง เมื่อท่านประสบความทุกข์ยาก พระเจ้ากำลังค้นดูว่าท่านไว้วางใจในพระองค์มากแค่ไหน ผลที่ได้รับก็คือ ท่านจะกลายเป็นคนที่สามารถทนแม้กระทั่งความทุกข์ยากที่มากกว่านี้"
คำว่าอดทนในข้อนี้พูดเหมือนกับว่าสักคนหนึ่งกำลังทำงาน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ให้เรียนรู้ที่จะอดทนในความลำบากทุกอย่าง"
สามารถที่จะไว้วางใจในพระคริสต์และเชื่อฟังพระองค์ในทุกสถานการณ์
ประโยคนี้สามารถแปลเป็นทางบวกได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "มีทุกอย่างที่ท่านต้องการ" หรือ "เป็นทุกอย่างทีท่านต้องการเป็น"
"ให้ขอสิ่งนั้นจากพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้ที่จะประทานให้"
"ให้อย่างใจกว้างและไม่ต่อว่า"
"พระเจ้าจะทำให้" หรือ "พระเจ้าจะตอบคำอธิษฐานของท่าน"
ประโยคนี้สามารถแปลไปในทางบวกได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ด้วยความมั่นใจอย่างสมบูรณ์ว่าพระเจ้าจะทรงตอบ"
ใครก็ตามที่สงสัยว่าพระเจ้าจะช่วยเขาหรือไม่ก็เป็นเหมือนน้ำในมหาสมุทรหรือในทะเลสาปที่กว้างใหญ่ ที่ถูกซัดไปๆ มาๆ ในหลายทิศทาง
"ใจ" คำว่า "สองใจ" หมายถึงความคิดของบุคคลหนึ่งเมื่อเขาไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ไม่สามารถตัดสินใจว่าเขาจะติดตามพระเยซูดีหรือไม่"
บุคคลในข้อนี้ถูกพูดถึงเหมือนกับว่าเขาไม่สามารถอยู่บนเส้นทางเดียวได้ แต่กลับย้ายจากเส้นทางหนึ่งไปอีกเส้นทางหนึ่ง
"ผู้เชื่อที่ไม่มีเงินทองมาก"
บางคนที่พระเจ้าทรงยกย่องถูกกล่าวถึงเหมือนกับเขากำลังยืนอยู่ในที่สูง
"แต่คนที่มีเงินทองมากมาย" ความหมายที่เป็นไปได้คือ 1) คนร่ำรวยที่เป็นผู้เชื่อ หรือ 2) คนร่ำรวยที่ไม่ใช่ผู้เชื่อ
ผู้เชื่อที่เป็นคนร่ำรวยควรมีความสุขถ้าพระเจ้านำความลำบากมาให้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ควรมีความสุขว่าพระเจ้าได้ทรงมอบฐานะนั้นให้แก่ท่าน"
คำร่ำรวยถูกกล่าวถึงว่าเป็นเหมือนกับดอกหญ้า ซึ่งมีชีวิตอยู่ในระยะเวลาอันสั้น (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
ดอกไม้ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบในข้อนี้ก็อาจยังมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะดอกไม้ไม่ตายลงในทันทีแต่กลับค่อยๆ สูญหายไปในระยะเวลาอันสั้น เช่นเดียวกับคนร่ำรวยที่เขาอาจไม่ตายลงในทันที แต่เขาก็จะค่อยๆ หายไป
กิจวัตรของคนร่ำรวยในแต่ละวันถูกกล่าวถึงเหมือนกับเป็นการเดินทางที่เขากำลังไปอยู่ ภาพเปรียบเทียบนี้สื่อความหมายให้รู้ว่าเขาไม่คิดถึงความตายที่กำลังใกล้เข้ามา แต่จะมาถึงเขาโดยไม่ทันตั้งตัว
ยากอบเตือนความจำผู้เชื่อที่ได้หลีกหนีว่าพระเจ้าไม่ได้ทำให้เกิดการทดลอง ท่านได้บอกพวกเขาถึงวิธีที่จะหลีกการทดลอง
โชคดี หรือ สุขสบาย
ยังคงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าในช่วงที่ทุกข์ยากลำบาก
เขาได้หรับการพิสูจน์จากพระเจ้าแล้ว
ชีวิตนิรันดร์ถูกกล่าวเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือนมงกุฏที่ทำจากใบไม้เพื่อเอาสวมศีรษะแก่นักกีฬาที่มีชัยชนะ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "รับชีวิตนิรันดร์เป็นรางวัลของเขา"
ประโยคนี้สามารถอยูในรูปที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้าได้ทรงสัญญาที่จะมอบมงกุฎแห่งชีวิตให้แก่บรรดาคนที่รักพระองค์"
"เมื่อเขาปรารถนาที่จะทำบางสิ่งบางอย่างที่ชั่วร้าย"
ประโยคนี้สามารถเรียงใหม่โดยให้ประธานในประโยคเป็นผู้กระทำ แปลได้อีกอย่างว่า "พระเจ้าทรงพยายามที่จะทำให้ข้าพเจ้าทำความชั่วบางอย่าง"
ประโยคนี้สามารถอยูในรูปที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้าไม่ปรารถนาที่จะทำอะไรก็ตามที่เป็นสิ่งชั่วร้าย"
"และพระเจ้าเองไม่พยายามที่จะทำอะไรก็ตามที่ชั่วร้าย"
ความปรารถนาของบุคคลถูกกล่าวถึงเหมือนกับเป็นบางคนที่หลอกล่อให้เขาทำความบาป
ความปรารถนาชั่วยังคงถูกกล่าวว่าเป็นเหมือนบุคคลหนึ่งที่สามารถชักจูงบางคนได้
ดึงความสนใจ ชักชวนบางคนให้ทำชั่ว
ความปรารถนาถูกกล่าวเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือนบุคคลหนึ่ง ครั้งนี้เปรียบเหมือนผู้หญิงคนหนึ่งที่ตั้งครรภ์ เด็กนั้นเปรียบเหมือนความบาป ความบาปคือทารกหญิงอีกคนหนึ่งที่เติบโตขึ้น ต่อมาได้ตั้งท้อง และให้กำเนิดความตาย ภาพเปรียบเทียบที่เป็นวัฏจักรนี้เป็นภาพของบางคนที่จบลงด้วยความตายทั้งฝ่ายวิญญาณและฝ่ายร่างกายเพราะความปรารถนาชั่วและความบาปของเขา
"อย่าให้ใครมาหลอกลวงท่านได้" หรือ "หยุดหลอกลวงตนเอง"
ทั้งสองวลีนี้มีความหมายเหมือนกัน ยากอบใช้ทั้งสองคำนี้เพื่อเน้นว่าอะไรก็ตามที่เป็นสิ่งดีที่คนนั้นมี มาจากพระเจ้า
พระเจ้า ผู้ทรงสร้างดวงสว่างทั้งหมดบนท้องฟ้า (ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างๆ) กล่าวได้ว่าทรงเป็น "พระบิดา" ของสิ่งเหล่านั้น
คำนี้เป็นภาพเล็งถึงพระเจ้าในฐานะของความสว่างที่ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์ต่างๆ และดวงดาวต่างๆ ที่โคจรไปบนท้องฟ้าและความสว่างของมันมักจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้าไม่ทรงเปลี่ยนแปลงเหมือนกับดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวต่างๆ ซึ่งบางครั้งก็ปรากฏ บางครั้งก็หายไป"
คำว่า "เรา" หมายถึงยากอบและผู้ฟังของท่าน
พระเจ้า ผู้ทรงนำชีวิตนิรันดร์มาให้แก่เรา ถูกกล่าวถึงเหมือนกับว่าพระองค์ทรงให้กำเนิดเรา
ข้อความที่เป็นจริงของพระเจ้า วลีนี้ถูกกล่าวถึงเหมือนกับว่าเป็นปัจจัยที่พระเจ้า "ทรงให้กำเนิดเรา"
ยากอบกำลังใช้แนวความคิดเรื่องผลแรกของประเพณีชาวฮีบรูมาใช้อธิบายถึงคุณค่าของผู้เชื่อคริสเตียนที่มีต่อพระเจ้า พระองค์ทรงใช้เพื่อแสดงให้เห็นว่าจะมีผู้เชื่ออีกมากมายหลายคนในอนาคต
ความหมายที่เป็นไปได้คือ 1) "จงรู้เรื่องนี้ไว้" เป็นคำสั่ง ให้เอาใจใส่ต่อสิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังเขียน 2) "พวกท่านรู้อยู่แล้ว" เป็นคำประกาศจุดยืน ว่าข้าพเจ้ากำลังเตือนให้ท่านระลึกถึงบางสิ่งที่ท่านรู้อยู่แล้ว
คนเราควรที่จะตั้งใจฟังให้ดีเสียก่อน แล้วค่อยคิดให้ดีๆ ว่าจะพูดอะไรออกมา "ช้าในการพูด" ไม่ได้หมายความว่าให้พูดอย่างช้าๆ
"ไม่โกรธในทันทีทันใด"
เมื่อสักคนหนึ่งโกรธ เขาไม่สามารถทำงานของพระเจ้าซึ่งเป็นความชอบธรรมได้
คำว่า "ความบาปโสมม" และ "ความชั่ว" ในข้อนี้มีความหมายเหมือนกัน ยากอบใช้คำเหล่านี้เพื่อเน้นว่าความบาปนั้นเลวร้ายแค่ไหน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "จงหยุดทำพฤติกรรมแห่งความบาปทุกชนิด" )
คำว่า "โสมม" ในข้อนี้คือ ดิน หมายถึงความบาปและความชั่ว
"ไม่อวดตัว" หรือ "ไม่หยิ่งผยอง"
คำว่า "ที่ปลูกฝังไว้" หมายถึงการเอาสิ่งหนึ่งเข้าไปไว้ในอีกสิ่งหนึ่ง ในข้อนี้พระวจนะของพระเจ้าถูกเปรียบเหมือนกับเป็นพืชที่เติบโตภายในบรรดาผู้เชื่อ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง จงเชื่อฟังข้อความที่พระเจ้าได้ตรัสกับท่าน"
คำว่า "พระวจนะ" ในข้อนี้ คือพระวจนะของพระเจ้า หมายถึงข่าวสารแห่งความรอดในพระคริสต์ที่พระเจ้าได้ตรัสแก่ผู้เชื่อ เมื่อพวกเขาเชื่อข่าวสารนั้น พระเจ้าก็ช่วยพวกเขาให้รอด
คนนั้นรอดจากอะไรสามารถแปลได้ชัดเจนได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ช่วยท่านให้รอดจากการลงโทษของพระเจ้า"
คำว่า "จิตวิญญาณ" ในข้อนี้หมายถึงหลายบุคคล
พวกเขาต้องเชื่อฟังในสิ่งที่พระวจนะของพระเจ้าได้สั่งไว้
"หลอกตัวท่านเอง"
คนที่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้าแต่ไม่ทำตาม พระคัมภีร์บอกว่าเขาเป็นเหมือนคนที่ดูตัวเองในกระจกเงาและก็ลืมไปว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไร
สภาพหน้าที่แท้จริงของเขาเอง
คนที่ดูหน้าของตัวเองและลืมในทันทีทันใดว่าได้เห็นอะไรบ้าง ก็เป็นเหมือนคนที่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้าและลืมในสิ่งที่เขาได้ยิน
วลีนี้เน้นถึงภาพของพระบัญญัติว่าเป็นเหมือนกระจกเงา
"พระบัญญัติที่สมบูรณ์ที่ปลดปล่อยผู้คนให้เป็นอิสระ"
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้าจะทรงอวยพรคนที่เชื่อฟังทำตามพระบัญญัติ"
"คิดว่าตัวเขาเองนมัสการพระเจ้าได้อย่างถูกต้อง"
การควบคุมลิ้นของตนเอง หมายถึงการควบคุมคำพูดของตัวเขา คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "สิ่งที่เขาพูด"
"หลอก" หรือ "หลงผิด"
คำว่า "หัวใจ" ในข้อนี้ หมายถึงความเชื่อหรือความคิดของเขา คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ตัวเขาเอง"
"เขานมัสการพระเจ้าอย่างเปล่าประโยชน์"
ยากอบพูดถึงศาสนา หรือวิธีที่คนนมัสการพระเจ้า ว่าเป็นเหมือนการทำให้ร่างกายสะอาดและไม่ด่างพร้อย นี่คือวิธีที่คนยิวดั้งเดิมใช้พูดถึงบางสิ่งซึ่งเป็นที่ยอมรับต่อพระเจ้า คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เป็นที่ยอมรับอย่างสมบูรณ์"
โดยตรงกับพระเจ้า
"ลูกกำพร้า"
ผู้หญิงผู้ที่ทนทุกข์ยากลำบากเพราะสามีของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว
การไม่ยอมให้ความชั่วในโลกนี้ทำให้ตัวเขาทำบาป
ยากอบเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงคนทั้งสิบสองเผ่าที่กระจัดกระจายไป
ยากอบบอกว่าให้ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีเมื่อต้องประสบกับความทุกข์ลำบากต่าง ๆ
การทดสอบทางความเชื่อของท่านทำให้เกิดความอดทน
เราควรขอสติปัญญาจากพระเจ้าเมื่อเราต้องการ
คนที่ขอด้วยความสงสัยไม่ควรหวังว่าจะได้รับสิ่งใดจากพระเจ้าเลย
พี่น้องที่ร่ำรวยควรถ่อมใจเพราะเขาจะต้องล่วงลับไปเหมือนกับดอกหญ้า
บรรดาคนที่ผ่านการทดสอบทางความเชื่อจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิต
ความปรารถนาชั่วของตนเองเป็นเหตุทำให้เขาถูกทดลองโดยความชั่ว
ผลของความบาปเติบโตเต็มที่ก็คือความตาย
ของประทานอันดีทั้งปวงและของประทานที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่างมาจากพระบิดาแห่งดวงสว่าง
พระเจ้าทรงเลือกประทานชีวิตแก่เราโดยพระวจนะแห่งความจริง
ยากอบได้บอกให้เราไวในการฟัง ช้าในการพูด และช้าในการโกรธ
ยากอบบอกกับเราว่าผู้ที่หลอกตัวเองได้ คือ ผู้ที่ฟังพระวจนะแต่ไม่กระทำตาม
ลิ้น คือ สิ่งที่เราต้องควบคุมเพื่อเราจะเป็นคนเคร่งศาสนาได้
การนับถือศาสนาที่สะอาดและไม่ด่างพร้อยต่อหน้าพระเจ้าคือการเยี่ยมเยียนบุตรกำพร้าและหญิงม่าย และป้องกันตัวเองให้สะอาดปราศจากมลทินของโลก
1 พี่น้องของข้าพเจ้า อย่ายึดมั่นในความเชื่อในองค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งพระสิริโดยที่มีใจลำเอียงต่อผู้คน 2 สมมติว่ามีคนเข้ามาในการประชุมของท่านที่สวมแหวนทองคำและใส่เสื้อผ้าเนื้อดี และก็มีคนยากจนที่ใส่เสื้อผ้าสกปรกเข้ามาด้วยเหมือนกัน 3 ถ้าหากพวกท่านมองคนที่ใส่เสื้อผ้าเนื้อดีแล้วกล่าวว่า "ขอท่านนั่งในที่อันมีเกียรตินี้เถิด" แต่กล่าวกับคนยากจนว่า "จงไปยืนอยู่ตรงนั้น" หรือ "จงนั่งที่พื้นแทบเท้าของฉันนี้" 4 อย่างนี้ท่านไม่ได้ตัดสินกันในพวกท่านหรือ? พวกท่านไม่ได้ตัดสินด้วยความคิดชั่วร้ายหรอกหรือ?
5 จงฟังเถิดพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า พระเจ้าไม่ได้เลือกคนยากจนของโลกนี้ให้กลายเป็นคนมั่งคั่งในความเชื่อและให้เป็นผู้รับมรดกในราชอาณาจักรตามที่พระองค์สัญญาไว้กับคนที่รักพระองค์หรือ? 6 แต่พวกท่านกลับดูถูกคนยากจน ก็ไม่ใช่พวกคนมั่งมีหรือที่ข่มเหงพวกท่าน? ก็คือพวกเขาไม่ใช่หรือที่ลากพวกท่านไปขึ้นศาล? 7 ก็พวกเขาไม่ใช่หรือที่ดูถูกพระนามประเสริฐของพระองค์ผู้ที่เป็นเจ้าของพวกท่าน?
8 แต่ถ้าพวกท่านทำตามกฎบัญญัติอย่างซื่อสัตย์ตามที่พระคัมภีร์กล่าวเอาไว้ว่า "พวกท่านจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง" พวกท่านก็ทำได้ดีแล้ว 9 แต่ถ้าพวกท่านมีใจลำเอียงต่อผู้คน พวกท่านก็กำลังทำบาป และกฎบัญญัติก็แจ้งในจิตสำนึกของพวกท่านว่าพวกท่านเป็นพวกละเมิดกฎบัญญัติ
10 เพราะใครก็ตามที่ทำตามกฎบัญญัติทั้งหมดแต่ได้ผิดพลาดไปในหนึ่งเรื่องก็กลายเป็นคนผิดที่ละเมิดกฎบัญญัติทั้งหมด 11 เพราะคนที่พูดว่า "อย่าล่วงประเวณี" ก็ได้พูดด้วยว่า "อย่าฆ่าคน" ถ้าหากพวกท่านไม่ล่วงประเวณีแต่ได้ฆ่าคน พวกท่านก็กลายเป็นคนที่ละเมิดกฎบัญญัติทั้งหมด
12 ดังนั้นจงพูดและกระทำเหมือนกับคนที่จะได้รับการพิพากษาโดยกฎแห่งเสรีภาพ 13 เพราะการพิพากษานั้นมาถึงโดยปราศจากความเมตตาต่อคนที่ไม่สำแดงความเมตตา ความเมตตามีชัยชนะเหนือการพิพากษา
14 พี่น้องของข้าพเจ้า จะดีแค่ไหน ถ้ามีบางคนพูดว่าเขามีความเชื่อแต่เขาไม่สำแดงเป็นการกระทำอะไรเลย? ความเชื่อนั้นก็ไม่สามารถช่วยเขาให้รอดได้ใช่ไหม? 15 สมมติถ้ามีพี่น้องชายหรือหญิงคนหนึ่งขาดแคลนเสื้อผ้าและไม่มีอาหารรับประทาน 16 แล้วมีคนหนึ่งในพวกท่านพูดกับพวกเขาว่า "จงไปเป็นสุขเถิด จงอยู่อย่างอบอุ่น และเต็มบริบูรณ์เถิด" ถ้าพวกท่านไม่หยิบยื่นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกายให้แก่พวกเขา การทำอย่างนั้นจะเกิดผลดีอย่างไรหรือ? 17 ในทำนองเดียวกัน ความเชื่อก็เป็นเช่นนั้น ถ้าหากไม่สำแดงออกเป็นการกระทำ ก็เป็นความเชื่อที่ตายแล้ว
18 บางคนอาจพูดว่า "ท่านมีความเชื่อ ส่วนข้าพเจ้ามีการกระทำ" ขอแสดงให้ข้าพเจ้าเห็นถึงความเชื่อที่ปราศจากการกระทำของพวกท่าน แล้วข้าพเจ้าจะแสดงให้พวกท่านเห็นถึงความเชื่อที่สำแดงออกเป็นการกระทำของข้าพเจ้า 19 พวกท่านเชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียว พวกท่านก็ถูกแล้ว แต่แม้แต่มารซาตานก็เชื่ออย่างนั้น และพวกมันก็กลัวจนตัวสั่น 20 คนเขลาเอ๋ย พวกท่านอยากรู้ไหมว่า ความเชื่อที่ไม่สำแดงออกเป็นการกระทำก็ไร้ประโยชน์?
21 อับราฮัมผู้เป็นบิดาของพวกเราก็ไม่ได้เป็นผู้ชอบธรรมโดยการกระทำเมื่อเขาถวายบุตรชายคนเดียวของเขาที่แท่นบูชาหรอกหรือ? 22 พวกท่านเห็นแล้วว่าความเชื่อทำงานด้วยกันกับการกระทำของเขาและโดยการกระทำของเขาทำให้ความเชื่อของเขาได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์ 23 พระคัมภีร์ก็สำเร็จตามที่กล่าวว่า "อับราฮัมเชื่อพระเจ้า และนั่นทำให้เขาถูกนับว่าเป็นผู้ชอบธรรม" และเขาถูกเรียกว่าเป็นสหายของพระเจ้า 24 พวกท่านเห็นแล้วว่าโดยการกระทำนั้นทำให้มนุษย์คนหนึ่งถูกทำให้เป็นผู้ชอบธรรม ไม่ใช่ด้วยความเชื่อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
25 ในทำนองเดียวกัน ราหับผู้เป็นหญิงโสเภณีก็ได้กลายเป็นคนชอบธรรมเมื่อเธอต้อนรับผู้สื่อสารและส่งพวกเขาให้หนีไปอีกทางหนึ่งไม่ใช่หรือ? 26 เพราะร่างกายเมื่อแยกออกจากวิญญาณก็ตายแล้วฉันใด ความเชื่อที่แยกออกจากการกระทำก็ตายแล้วเหมือนกันฉันนั้น
ยากอบคอยบอกผู้เชื่อชาวยิวที่กระจัดกระจายไปอยู่ตลอดถึงการดำเนินชีวิตโดยรักซึ่งกันและกัน และเตือนสติพวกเขาไม่ให้เห็นแก่คนร่ำรวยมากกว่าพี่น้องที่ยากจน
ยากอบถือว่าผู้ฟังของท่านเป็นผู้เชื่อชาวยิว คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เพื่อนร่วมความเชื่อของพระเจ้า" หรือ "พี่น้องชายหญิงในพระคริสต์ของข้าพเจ้า"
การเชื่อในพระเยซูคริสต์ถูกกล่าวถึงคล้ายกับเป็นวัตถุสิ่งหนึ่งที่สามารถใช้เป็นหลักยึดไว้ได้
ปรารถนาที่จะช่วยบางคนมากกว่าคนอื่น
ยากอบเริ่มบรรยายถึงสถานการณ์ที่มีผู้เชื่ออาจให้เกียรติแก่คนร่ำรวยมากกว่าคนยากจน
"แต่งตัวเหมือนกับคนร่ำรวย"
นั่งในสถานที่แห่งเกียรติยศ
การย้ายไปยังสถานที่ที่มีเกียรติน้อยลง
การย้ายไปยังสถานที่แห่งการถ่อมตัว
ยากอบกำลังใช้คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเพื่อสอนและอาจด่าผู้อ่านของท่าน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พวกท่านตัดสินกันเองและกลายเป็นผู้ตัดสินที่มีความคิดชั่ว"
ยากอบกำลังหนุนใจผู้อ่านของท่านเหมือนกับคนในครอบครัวเดียวกัน "ให้ตั้งใจฟังให้ดี พี่น้องที่รักของข้าพเจ้าที่ร่วมความเชื่อเดียวกัน"
ในข้อนี้ยากอบใช้คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเพื่อสอนผู้อ่านของท่านไม่ให้แสดงความลำเอียง หรืออาจแปลให้เป็นคำพูดปกติก็ได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้าได้ทรงเลือก...ที่รักพระองค์"
"ผู้คนที่ยากจน"
การมีความเชื่อมากถูกกล่าวเปรียบเทียบเหมือนกับเป็นความมั่งคั่งร่ำรวย วัตถุประสงค์ของความเชื่ออาจจะต้องระบุไว้ด้วย คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "มีควมเชื่อที่เข้มแข็งในพระคริสต์"
ผู้คนที่พระเจ้าได้ทรงกระทำสัญญาด้วยถูกกล่าวถึงเหมือนกับว่าพวกเขาได้รับมรดกเป็นทรัพย์สินเงินทองและความร่ำรวยจากใครสักคนหนึ่งในครอบครัว
ยากอบกำลังพูดถึงบรรดาผู้ฟังของท่านทั้งหมด
"พวกท่านทำให้คนยากจนต้องอับอาย"
ในข้อนี้ยากอบใช้คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเพื่อแก้ไขผู้อ่านของท่าน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "คนร่ำรวยคือผู้ที่ได้ข่มเห่งพวกท่าน" (ให้อ่าน: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_rquestion และ file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_nominaladj )
"คนที่ร่ำรวย"
"คนที่ทำไม่ดีกับพวกท่าน"
ในข้อนี้ยากอบใช้คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเพื่อแก้ไขผู้อ่านของท่าน ประโยคนี้อาจแปลเป็นคำพูดปกติก็ได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "คนร่ำรวยเป็นคนที่....ไปขึ้นศาล"
"ใช้กำลังบังคับพวกท่านไปยังศาล เพื่อกล่าวหาพวกท่านต่อหน้าผู้พิพากษา"
ในข้อนี้ยากอบใช้คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเพื่อปรับปรุงแก้ไขผู้อ่านของท่าน ประโยคนี้สามารถแปลเป็นคำพูดปกติก็ได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "คนร่ำรวย...ของพวกท่าน"
"พระนามของพระคริสต์" นี่เป็นวิธีที่จะเอ่ยอ้างอิงถึงพระนามของพระเยซู คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระคริสต์ที่พวกท่านเป็นของพระองค์"
"พวกท่านเข้ากับ"
คำว่า "พวกท่าน" หมายถึงผู้เชื่อที่เป็นคนยิว
"เชื่อฟังทำตามพระบัญญัติของพระเจ้า" แต่เดิมพระเจ้าทรงประทานพระบัญญัติให้แก่โมเสส และถูกบันทึกไว้ในพระธรรมเล่มต่างๆ ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม
ยากอบกำลังอ้างอิงถึงพระธรรมเลวีนิติ
หมายถึง "ผู้คนทั้งหมด" หรือ "ทุกคน"
"พวกท่านกำลังดีอยู่แล้ว" หรือ "พวกท่านกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง"
"ปรนนิบัติอย่างเป็นพิเศษแก่..." หรือ "ให้เกียรติแก่..."
"ทำบาป" คือการฝ่าฝืนกฎบัญญัติ
ในข้อนี้คำว่ากฎบัญญัติถูกพูดถึงเหมือนกับเป็นผู้พิพากษาที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ความรู้สึกผิดในใจถึงการฝ่าฝืนพระบัญญัติของพระเจ้า" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
"เพื่อใครก็ตามที่ทำตาม"
ผิดพลาดหรือสะดุดเป็นการล้มลงในขณะที่คนนั้นกำลังเดินอยู่ การไม่เชื่อฟังทำตามข้อหนึ่งของกฎบัญญัติถูกพูดถึงเหมือนกับเป็นการสะดุดล้มลงในขณะที่เดินอยู่
เพราะการไม่เชื่อฟังทำตามกฎบัญญัติเพียงแค่ข้อเดียว
ประโยคนี้หมายถึงพระเจ้าเป็นผู้ประทานกฎบัญญัติให้แก่โมเสส
คำว่า "อย่า(ทำ)" เป็นเรื่องเกี่ยวกับการกระทำ
คำว่า "พวกท่าน" ที่นี่หมายถึง "พวกท่านแต่ละคน" แม้ว่ายากอบเขียนถึงบรรดาผู้เชื่อที่เป็นคนยิวมากมายหลายคน แต่ในกรณีนี้ ท่านได้ใช้รูปแบบคำเอกพจน์เหมือนกับว่าท่านกำลังเขียนถึงแต่ละคนโดยเฉพาะ
"ดังนั้นท่านต้องพูดและทำตาม" ยากอบได้สั่งให้ผู้คนทำตามสิ่งนี้
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "คนที่รู้ว่าพระเจ้าจะทรงตัดสินโดยอาศัยหลักของกฎแห่งเสรีภาพ"
ข้อความนี้บอกเป็นนัยว่าพระเจ้าจะเป็นผู้พิพากษาตัดสินตามกฎหรือบัญญัติของพระองค์
"กฎหรือบัญญัติที่ให้เสรีภาพที่แท้จริง"
"ความเมตตาดีกว่า" หรือ "ความเมตตาเอาชนะเหนือ" คำว่าความเมตตาและความยุติธรรมในข้อนี้ถูกพูดถึงเหมือนกับเป็นบุคคล
ยากอบหนุนใจเหล่าผู้เชื่อที่กระจัดกระจายให้สำแดงความเชื่อของพวกเขาให้คนอื่นได้เห็น เช่นเดียวกับอับราฮัมที่ได้สำแดงความเชื่อออกมาเป็นการกระทำให้คนอื่นได้เห็น
ยากอบกำลังใช้คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเพื่อสอนผู้ฟังของท่าน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "มันไม่ดีเลย พี่น้องผู้ร่วมความเชื่อ ถ้าบางคนบอกว่าเขามีความเชื่อ แต่เขาไม่แสดงออกเป็นการกระทำ"
ยากอบได้พูดความเชื่อ การเชื่อในพระเจ้า เหมือนกับเป็นวัตถุที่มองเห็นได้ (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_abstractnouns และ file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_metaphor)
ยากอบพูดถึงการกระทำหรือการประพฤติ ว่าเป็นเหมือนการทำดี เหมือนการกระทำเหล่านั้นเป็นวัตถุสิ่งของที่มองเห็นได้ (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_abstractnouns และ file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_metaphor)
ยากอบพูดถึงความเชื่อ การเชื่อในพระเจ้า เหมือนสิ่งเหล่านั้นมีฤทธิ์อำนาจพิเศษที่จะช่วยผู้คนได้ เป็นการบอกเป็นนัยว่าความเชื่อก็ยังไม่เพียงพอ ประโยคนี้อาจแปลเป็นคำพูดปกติก็ได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ความเชื่อนี้ไม่สามารถช่วยให้เขารอดได้" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_abstractnouns และ file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_rquestion)
"ช่วยเขาให้รอดจากการพิพากษาของพระเจ้า"
คำนี้อาจหมายความถึง "มีเสื้อผ้าเพียงพอที่จะใส่" หรือ "มีสถานที่จะหลับนอน"
"มีเพียงพอที่จะกิน"
ที่จะกิน ที่จะใส่ ที่จะอยู่ได้อย่างสบาย
ยากอบใช้คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเพื่อสอนผู้ฟังของท่าน แปลได้อีกอย่างว่า "นั่นไม่ดีเลย"
เพื่อนที่เป็นผู้เชื่อในพระคริสต์ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม
ยากอบพูดถึงความเชื่อเหมือนกับว่าถ้าใครทำการดีหรือประพฤติดีความเชื่อนั้นก็มีชีวิตอยู่ และถ้าใครไม่ทำดีหรือไม่ประพฤติดีความเชื่อนั้นก็ตาย (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_abstractnouns และ file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_metaphor )
ความเชื่อถูกพูดถึงเหมือนกับเป็นบุคคลหนึ่งที่ได้ทำการดีหรือประพฤติดี
ยากอบอธิบายถึงสถานการณ์ที่สมมติขึ้นมา ที่บางคนโจมตีคำสอนของท่าน ยากอบหาทางแก้ไขความเข้าใจเรื่องความเชื่อและการกระทำหรือการประพฤติของผู้ฟังของท่าน (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/%7CHypothetical%20Situations)
"มันเป็นที่ยอมรับได้ ถ้าคนหนึ่งมีความเชื่อ และอีกคนหนึ่งมีการกระทำดี" ยากอบกำลังอธิบายถึงการที่บางคนอาจโต้แย้งคำสอนของท่าน
ยากอบพูดถึงความเชื่อและการกระทำเป็นเหมือนดังวัตถุสิ่งของที่คนหนึ่งสามารถครอบครองและแสดงให้คนอื่นเห็นได้ (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_abstractnouns และ file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_metaphor)
ยากอบพูดถึงความเชื่อเหมือนกับเป็นสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ถ้าคนนั้นได้ทำการดีจริงๆ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ข้าพเจ้าจะแสดงตัวอย่างให้เห็นถึงความเชื่อของข้าพเจ้าที่แสดงออกโดยการกระทำสิ่งดีหรือประพฤติดี" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_abstractnouns และ file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_metaphor)
"พวกมารก็เชื่อเช่นกัน และพวกมารก็กลัวจนตัวสั่น" ยากอบให้เห็นข้อแตกต่างของพวกมารที่อ้างว่าเชื่อด้วยแต่ไม่ได้ทำการดี ยากอบบอกว่าพวกมารยังจะฉลาดกว่าเสียอีก เพราะพวกมารเกรงกลัวพระเจ้าในขณะที่คนอื่นไม่เกรงกลัวพระเจ้า
นี่เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ ถูกนำมาใช้เพื่อต่อว่าคนที่ไม่เชื่อฟังยากอบ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เจ้าพวกคนโง่ พวกท่านไม่อยากฟังข้าพเจ้าพิสูจน์ว่าความเชื่อที่ไม่มีการแสดงออกมาเป็นการกระทำเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/%7CRhetorical%20Question)
ยากอบได้ตั้งคำถามนี้ขึ้นเพื่อนำไปสู่คำสอนเรื่องต่อไป คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ข้าพเจ้าจะแสดงให้พวกท่านเห็นว่า...มันไร้ประโยชน์"
ในเมื่อคนเหล่านี้คือบรรดาผู้เชื่อชาวยิว พวกเขาต่างรู้เรื่องราวของอับราฮัมเป็นอย่างดี รู้เรื่องเกี่ยวกับคนที่พระเจ้าได้บอกพวกเขาไว้นานแล้วในพระวจนะของพระองค์
นี่เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบที่ใช้เพื่อต่อว่าข้อโต้แย้งของคนที่โง่เขลาจากข้อ [ยากอบ 2:18]
ยากอบพูดถึงการกระทำเหมือนดังเป็นวัตถุสิ่งของที่คนเราสามารถเป็นเจ้าของได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ถูกนับว่าเป็นคนชอบธรรมโดยการกระทำดี"
คำว่า "บิดา" ในข้อนี้ถูกใช้เพียงเล็งถึงคำว่า "บรรพบุรุษ"
คำว่า "พวกท่าน" นี่เป็นคำพหุพจน์ หมายถึง กลุ่มบุคคลที่เป็นผู้ฟังทั้งหมดของท่าน
คำว่า "เห็น" เป็นคำที่ใช้แทนคำอื่น คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เข้าใจ" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
ยากอบพูดถึงความเชื่อว่าเป็นเหมือนการทำดี ความเชื่อของอับราฮัมในพระเจ้าในเรื่องของอิสอัคทำให้อับราฮัมเชื่อฟังทำตามพระเจ้าได้ในยามที่ยากลำบาก โดยการเชื่อฟังทำตามพระเจ้า ความเชื่อของอับราฮัมก็เติบโตขึ้น (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_metaphor และ file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_abstractnouns)
การไว้วางใจในพระเจ้าของอับราฮัมได้ถูกพูดถึงเหมือนดังเป็นบางสิ่งที่สามารถทำให้อยู่ในระดับที่ดีที่สุดได้ เพื่อจะใช้ได้ตรงกับวัตถุประสงค์ได้อย่างสมบูรณ์ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เพราะอับราฮัมเชื่อฟังทำตามพระเจ้า ท่านจึงได้ไว้วางใจในพระเจ้าอย่างสมบูรณณ์"
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "จึงได้สำเร็จตามพระคัมภีร์"
"พระเจ้าทรงถือว่าความเชื่อของท่านว่าเป็นดังความชอบธรรม" ความเชื่อและความชอบธรรมของอับราฮัมต่างถูกมองเหมือนกับเป็นสิ่งที่สามารถนับมูลค่าได้
ยากอบได้พูดตรงๆ กับผู้ฟังของท่านอีกครั้งโดยใช้คำว่า "พวกท่าน" เป็นคำพหูพจน์
"การกระทำและความเชื่อเป็นสิ่งที่ทำให้คนนั้นถูกนับว่าเป็นคนชอบธรรม ไม่ใช่เพียงความเชื่ออย่างเดียว" ยากอบพูดถึงการกระทำเหมือนดังเป็นเรารับวัตถุสิ่งของ (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_activepassive และ file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_metaphor)
ยากอบบอกว่าอะไรที่เกิดจริงกับอับราฮัมก็จะเกิดขึ้นจริงกับราหับด้วย ทั้งสองถูกถือว่าเป็นคนชอบธรรมโดยทางการกระทำหรือการประพฤติ
ยากอบกำลังใช้คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเพื่อสอนผู้ฟังของท่าน แปลได้อีกอย่างหนึ่งว่า "สิ่งที่ราหับหญิงโสเภณีกระทำทำให้นางถูกนับว่าเป็นคนชอบธรรม...อีกทางหนึ่ง" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_rquestion และ file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_activepassive )
ผู้หญิงที่ชื่อราหับนี้มาจากเรื่องราวในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมที่ยากอบอยากให้ผู้ฟังของท่านได้รู้จัก
ยากอบพูดถึงการกระทำเหมือนเป็นบางสิ่งที่ครอบครองได้
คนที่นำข่าวสารมาจากอีกที่หนึ่ง
"แล้วช่วยพวกเขาให้หลบหนีออกไปจากเมืองได้"
ยากอบกำลังพูดถึงความเชื่อที่ไม่มีการกระทำว่าเป็นเหมือนดังร่างกายที่ตายแล้ว ไม่มีวิญญาณ (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
ยากอบได้บอกพวกเขาว่าอย่ามีใจลำเอียงต่อบางคนเพราะลักษณะภายนอกของเขา
ยากอบได้บอกว่าพระเจ้าทรงเลือกคนยากจนให้เป็นคนมั่งคั่งในความเชื่อและให้เป็นผู้รับมรดกในราชอาณาจักร
ยากอบบอกว่าคนมั่งคั่งเคยข่มเหงพี่น้องและดูถูกพระนามของพระเจ้า
พระบัญญัติอย่างสัตย์ซื่อคือ "พวกท่านจงรักเพื่อนบ้านของท่านเหมือนรักตนเอง"
ใครก็ตามที่ละเมิดจากพระบัญญัติของพระเจ้าเพียงข้อเดียวก็เป็นคนผิดที่ละเมิดพระบัญญัติทั้งหมด
การพิพากษาลงโทษที่ปราศจากความเมตตาจะมาถึงบรรดาคนที่ไม่สำแดงความเมตตา
ยากอบได้บอกว่าบรรดาคนที่อ้างว่าตนมีความเชื่อ แต่ไม่ช่วยเหลือคนที่ขัดสน ความเชื่อของเขาก็ช่วยเขาให้รอดไม่ได้
ความเชื่อที่ไม่มีการแสดงออกเป็นการกระทำเป็นความเชื่อที่ตายแล้ว
ยากอบได้บอกว่าเราต้องสำแดงความเชื่อของเราออกมาเป็นการกระทำของเรา
บรรดาคนที่อ้างว่าตนมีความเชื่อและมารก็เชื่อด้วยว่า มีพระเจ้าองค์เดียว
อับราฮัมสำแดงความเชื่อของท่านออกมาเป็นการกระทำเมื่อท่านถวายอิสอัคบนแท่นบูชา
ข้อพระคัมภีร์ที่สำเร็จได้กล่าวว่า "อับราฮัมเชื่อพระเจ้า และนั่นทำให้เขาถูกนับว่าเป็นผู้ชอบธรรม"
ราหับได้สำแดงความเชื่อของนางออกมาเป็นการกระทำเมื่อเธอต้อนรับบรรดาผู้ส่งสารและนำพวกเขาให้หนีไปอีกทางหนึ่ง
ร่างกายถูกแยกจากวิญญาณก็จะตาย
1 พี่น้องของข้าพเจ้าเอ๋ย ไม่ควรมีหลายคนที่ได้เป็นครูผู้สอน พวกเรารู้ว่าผู้สอนจะได้รับการพิพากษาที่เข้มงวดมากยิ่งกว่าคนอื่น 2 เพราะพวกเราทุกคนล้วนทำผิดพลาดได้หลายอย่าง ถ้าหากคนใดไม่ทำผิดพลาดทางวาจาเลย เขาก็เป็นคนที่ได้รับการสร้างให้เติบโตอย่างสมบูรณ์และสามารถควบคุมทั้งร่างกายของเขาได้
3 ถ้าเอาบังเหียนครอบปากม้าได้ พวกเราก็จะสามารถควบคุมร่างกายทั้งหมด 4 หรือเรือใหญ่ แม้ว่ามันจะลำใหญ่และแล่นไปได้ด้วยลมแรง กระนั้นมันก็ยังถูกบังคับด้วยหางเสือเล็กๆ อันหนึ่งที่ทำให้มันแล่นไปทางไหนตามใจของคนที่คุมหางเสือนั้น
5 ลิ้นก็เช่นเดียวกัน เป็นอวัยวะเล็กแต่โอ้อวดเรื่องใหญ่ ขอคิดดูเถิดว่า ประกายไฟเพียงนิดเดียวสามารถทำให้ทั้งป่าใหญ่มอดไหม้ได้ 6 ลิ้นก็เป็นเช่นไฟ เป็นโลกแห่งความบาปชั่วที่อยู่ท่ามกลางอวัยวะในร่างกายของพวกเรา มันทำให้ทั้งร่างกายด่างพร้อย และทำให้ชีวิตลุกเป็นไฟ และตัวมันเองก็ลุกด้วยไฟจากนรก
7 เพราะบรรดาสัตว์ป่า นกในอากาศ สัตว์เลื้อยคลาน และสิ่งทรงสร้างในทะเลนั้นมนุษย์สามารถฝึกให้เชื่องได้ 8 แต่สำหรับลิ้นแล้ว ไม่มีมนุษย์คนใดที่สามารถทำให้มันเชื่องได้ มันเป็นความชั่วร้ายที่ไม่สามารถควบคุมได้ เต็มไปด้วยพิษแห่งความตาย
9 ด้วยลิ้นนั้นเราสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระบิดา และด้วยลิ้นเดียวกันนั้นเราก็แช่งด่ามนุษย์ผู้ซึ่งถูกสร้างมาตามพระลักษณะของพระเจ้า 10 ทั้งคำอวยพรและคำแช่งสาปก็ออกมาจากปากเดียวกัน พี่น้องของข้าพเจ้าเอ๋ย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่สมควรเกิดขึ้นเลย
11 น้ำที่มีรสหวานและรสขมก็ไม่ได้พลุ่งออกมาจากบ่อน้ำพุเดียวกันมิใช่หรือ? 12 พี่น้องเอ๋ย ต้นมะเดื่อก็ไม่สามารถออกผลเป็นมะกอกได้ใช่ไหม? หรือเถาองุ่นก็ไม่สามารถออกผลเป็นมะเดื่อได้ด้วยจริงหรือไม่? บ่อน้ำเค็มก็ไม่สามารถผลิตน้ำที่มีรสหวานได้
13 ใครคือคนที่ฉลาดและมีความเข้าใจในท่ามกลางพวกท่านหรือ? ก็ให้คนนั้นสำแดงชีวิตที่ดีออกมาเป็นการงานแห่งความถ่อมใจและมีสติปัญญาเถิด 14 แต่ถ้าหัวใจของพวกท่านเต็มไปด้วยความขมแห่งความริษยาและมักใหญ่ใฝ่สูงแล้ว ก็อย่าโอ้อวดหรือมุสาต่อต้านความจริงเลย
15 นี่ไม่ใช่สติปัญญาที่ลงมาจากเบื้องบน แต่มาจากโลกนี้ ไม่ใช่อยู่ฝ่ายวิญญาณ และถูกควบคุมโดยปีศาจ 16 เพราะที่ใดก็ตามที่มีความอิจฉาริษยาและความมักใหญ่ใฝ่สูง ที่นั่นก็จะมีความสับสนและการกระทำอันชั่วร้ายทุกอย่าง 17 แต่สติปัญญาที่มาจากเบื้องบนนั้นมีความบริสุทธิ์เป็นอันดับแรก จากนั้นจึงเป็นสันติสุข ความอ่อนสุภาพ การตอบสนอง เต็มไปด้วยความเมตตาและผลอันดี ไม่อ่อนกำลัง และจริงใจ 18 และผลของความชอบธรรมนั้นถูกหว่านลงในสันติสุขท่ามกลางคนเหล่านั้นที่สร้างสันติ
"พวกท่านไม่กี่คน" ยากอบกำลังทำให้เป็นคำพูดที่ปกติ
"เพื่อนร่วมความเชื่อของข้าพเจ้า"
ข้อความนี้พูดถึงการพิพากษาเข้มงวดจากพระเจ้าที่จะมาบนบรรดาคนที่สอนเรื่องของพระองค์ให้แก่คนอื่น คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้าจะพิพากษาเราเข้มงวดยิ่งกว่า เพราะว่าเรารู้พระวจนะของพระองค์ดีกว่าคนอื่นที่รับคำสอนของเรา"
ยากอบกำลังรวมกลุ่มบรรดาคนที่สอนพระคัมภีร์ไว้กับท่าน แม้ว่าผู้เชื่อบางคนที่ได้รับจดหมายฉบับนี้อาจเป็นครูสอนพระคัมภีร์ แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่
คำว่า "พวกเรา" ยากอบใช้เพื่อรวมถึงทุกคนที่เป็นผู้ฟังของท่าน
การทำบาปถูกพูดถึงเหมือนดังเป็นการสะดุดล้มลงในขณะกำลังเดินอยู่ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ล้มเหลว" หรือ "บาป"
"ไม่ทำบาปโดยการพูดในสิ่งที่ผิด"
"เขาเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ"
ยากอบกำลังหมายถึงจิตใจ อารมณ์ และการกระทำของคนหนึ่ง คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ควบคุมพฤติกรรมของเขาได้" หรือ "ควบคุมการกระทำของเขาได้"
ยากอบกำลังเริ่มการโต้แย้งในเรื่องสิ่งเล็กๆ สามารถควบคุมสิ่งใหญ่ได้
ยากอบพูดถึงเรื่องบังเหียนของม้า บังเหียนเป็นโลหะชิ้นเล็กๆ ที่ใส่เข้าไปในปากม้าเพื่อควบคุมทิศทางที่มันจะไป
ม้าเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ที่ใช้บรรทุกสิ่งของหรือคน
เรือใหญ่เป็นเหมือนรถบรรทุกที่ลอยอยู่บนน้ำ หางเสือเป็นกระดานหรือโลหะแผ่นเล็กๆ ที่ติดอยู่ตอนท้ายของเรือเพื่อใช้ควบคุมทิศทางที่เรือจะไป คำว่า "หางเสือ" อาจแปลโดยใช้คำว่า "เครื่องมือ" ก็ได้
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปของประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ลมแรงพัดเรือไป"
"มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ที่คนขับสามารถใช้ทิศทางที่เรือจะแล่นไปได้"
คำนี้เป็นสัญลักษณ์เปรียบเทียบเรื่องลิ้น เรื่องบังเหียนม้า และเรื่องหางเสือของเรือ ที่ได้กล่าวไปแล้วในข้อที่ผ่านมา คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "แบบเดียวกัน"
คำว่า "เรื่อง" (หรือ "สิ่ง") เป็นคำทั่วไปสำหรับทุกสิ่งที่ผู้คนต่างชอบเอามาอวดกัน
"คิดให้ดีๆ"
เพื่อจะช่วยให้ผู้คนเข้าใจความเสียหายที่ลิ้นสามารถทำได้ ยากอบได้พูดถึงความเสียหายที่เกิดจากประกายไฟเพียงเล็กน้อย คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เปลวไฟเพียงเล็กน้อยสามารถเผ่าต้นไม้ได้มากมายหลายต้น"
ลิ้นเป็นภาพเล็งถึงสิ่งที่ผู้คนพูด ยากอบเรียกว่าเป็นไฟเพราะว่ามันสามารถความเสียหายได้อย่างมากมาย คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ลิ้นเป็นเหมือนดังไฟ" หรือ "สิ่งที่ผู้คนพูดสามาถสร้างปัญหารุนแรงเหมือนกับไฟได้"
ผลกระทบอย่างมากของการพูดที่เต็มไปด้วยบาปถูกกล่าวถึงเหมือนกับว่ามันเป็นโลกของมันเอง
การพูดที่เต็มไปด้วยความบาปเป็นภาพเปรียบเทียบเหมือนคราบสกปรกบนร่างกายของเรา และการกลายเป็นที่ไม่ยอมรับต่อพระเจ้าถูกกล่าวถึงเหมือนกับเป็นความสกปรกบนร่างกาย
คำว่า "ชีวิต" หมายถึงตลอดทั้งชีวิตของคนนั้น คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "และมันสามารถทำลายตลอดทั้งชีวิตของคนนั้นได้"
คำว่า "ตัวมันเอง" หมายถึงลิ้น และคำว่า "นรก" ในข้อนี้หมายถึงอำนาจของความชั่วหรือมารร้าย ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปที่มีประโยคเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ชีวิต...เพราะมารร้ายใช้มันเพื่อความชั่ว"
คำว่า "ทุกชนิด" เป็นคำกล่าวทั่วไปถึงชนิดของสัตว์ป่าหลายๆ ชนิดหรือทั้งหมด ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ผู้คนต่างเรียนรู้ที่จะควบคุมสัตว์ป่า นก สัตว์เลื้อยคลาน และสิ่งมีชีวิตในทะเลมากมายหลายชนิด"
นี่เป็นสัตว์ที่คลานบนพื้นดิน
นี่เป็นสัตว์ที่อาศัญอยู่ในน้ำ
ยากอบพูดถึงลิ้นเหมือนเป็นสัตว์ป่า คำว่า "ลิ้น" ในข้อนี้หมายถึงความปรารถนาที่จะพูดตามความคิดที่ชั่วร้ายของคนๆ หนึ่ง
ลิ้นถูกพูดถึงว่าเป็นเหมือนความชั่วร้าย ที่ไม่มีใครควบคุมได้ ยากอบหมายถึงความปรารถนาที่จะพูดตามความคิดที่ชั่วร้ายของคนๆ หนึ่ง
ยากอบพูดถึงความสามารถที่จะพูดสิ่งชั่วร้ายของคนเราว่าเป็นเหมือนงูหรือต้นไม้ที่มีพิษ พิษของคำพูดนั้นส่งผลร้ายต่อคนอื่น
"ด้วยลิ้นนั้น เราใช้ลิ้นพูดถ้อยคำเหล่านั้น"
การแช่งด่าเป็นการขอให้พระเจ้าทำร้ายคนอื่น
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ผู้ซึ่งพระเจ้าได้ทรงสร้างตามพระฉายาของพระองค์"
ถ้อยคำที่นำพระพรและคำแช่งสาปก็ถูกกล่าวถึงเหมือนกับมันเป็นวัตถุสิ่งของที่ออกมาจากปากของบางคนได้
"เพื่อนคริสเตียนเอ๋ย"
"นี่เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง"
หลังจากยากอบเน้นว่าถ้อยคำของผู้เชื่อไม่ควรมีทั้งอวยพรและแช่งด่า ท่านได้ยกตัวอย่างจากธรรมชาติเพื่อสอนผู้อ่านของท่านว่าคนที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้าโดยการนมัสการพระองค์ควรดำเนินชีวิตที่ถูกทางด้วย
ยากอบใช้คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเพื่อเตือนสติผู้เชื่อถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "น้ำพุไม่ได้มีทั้งน้ำดีและน้ำขมออกมาพร้อมกัน"
"เพื่อนผู้ร่วมความเชื่อเดียวกัน"
ยากอบใช้คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบทั้งสองข้อเพื่อเตือนสติผู้เชื่อถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ต้นมะเดื่อจะออกผลเป็นมะกอกไม่ได้ พี่น้องเอ๋ย และต้นองุ่นออกผลเป็นมะกอกไม่ได้"
ยากอบใช้คำถามนี้เพื่อสอนผู้ฟังของท่านในเรื่องความประพฤติที่เหมาะสม คำว่า "ฉลาด" และ "ความเข้าใจ" นั้นคล้ายกัน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ข้าพเจ้าจะบอกท่านถึงคนที่ฉลาดและคนที่มีความเข้าใจว่าควรประพฤติอย่างไร"
การสำแดงชีวิตถูกกล่าวถึงเหมือนกับเป็นวัตถุสิ่งของที่บางคนเอามาแสดงให้คนอื่นเห็นได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "แสดงตัวอย่างของการใช้ชีวิตที่ดีให้เห็น"
"ด้วยการกระทำดีและความถ่อมใจของเขาที่มาจากการมีสติปัญญาที่แท้จริง"
คำว่า "หัวใจ" ที่นี้ หมายถึงอารมณ์หรือความคิด คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ความอยากได้สิ่งของหรือประสบการณ์ของคนอื่นอย่างรุนแรง และแสวงหาความสนใจของตนเองโดยไม่สนใจความสนใจของคนอื่น"
อารมณ์เหล่านี้ถูกพูดถึงว่าเป็นเหมือนวัตถุสิ่งของที่อยู่ภายในบางคนได้ การมักใหญ่ใฝ่สูงในบทนี้เป็นความปรารถนาที่อยากจะดีเด่นกว่าคนอื่น
"อย่าทำร้ายความจริงโดยการโกหกและการโอ้อวดเลย"
คำว่า "นี่" หมายถึง "ความริษยาที่ขมขื่นและการทะเลาะกัน" ที่บรรยายไว้ในข้อก่อนหน้านี้
คุณสมบัติของปัญญานี้ถูกกล่าวถึงเหมือนเป็นวัตถุสิ่งของที่พระเจ้าสามารถส่งลงมาจากเบื้องบน
คำว่า "เบื้องบน" นี้เป็นคำที่มีความหมายเล็งถึงพระเจ้า (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
คำว่า "โลก" นี้หมายถึงค่านิยมและความประพฤติของคนที่ไม่ได้ถวายเกียรติแด่พระเจ้า คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ไม่ถวายเกียรติให้แด่พระเจ้า"
"ไม่ได้มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์" หรือ "ไม่เป็นของฝ่ายวิญญาณ"
"จากมารร้าย"
คำว่า "อิจฉาริษยา" ในข้อนี้หมายถึงความต้องการอันรุนแรงอยากจะได้สิ่งของหรือประสบการณ์ที่คนอื่นมีหรือทำ และความมักใหญ่ใฝ่สูงหมายถึงการแสวงหาแต่ความสนใจของตนเองและไม่สนใจความสนใจของคนอื่น
"ไร้ระเบียบ" หรือ "มีความวุ่นวาย"
"การประพฤติบาปทุกชนิด" หรือ "การทำชั่วทุกชนิด"
"คือความบริสุทธิ์ (ศักดิ์สิทธิ์) เป็นประการแรก"
เป็นห่วงคนอื่น
การกระทำที่ดีถูกกล่าวถึงว่าเป็นเหมือนผลของต้นไม้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "การงานที่ดี"
"ซื่อตรง" หรือ "ด้วยความจริง"
ผลที่ดีของความชอบธรรมถูกกล่าวถึงเหมือนเป็นพืชผักที่ชาวสวนได้หว่านไว้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "บรรดาคนที่อยู่อย่างสันติกำลังกระทำสิ่งที่พระเจ้าตรัสว่าถูกต้อง"
"อยู่อย่างสันติ" สันติถูกมองว่าเป็นเหมือนวัตถุสิ่งของที่คนหนึ่งสร้างสร้างขึ้นมาได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ทำให้ผู้คนอยู่กันอย่างสันติ"
ไม่ควรให้หลายคนเป็นครูผู้สอนเพราะว่าพวกเขาจะได้รับการพิพากษาลงโทษที่เข้มงวดกว่า
พวกเราทุกคนล้วนผิดพลาดได้ในหลายหนทาง
คนที่ไม่ผิดพลาดทางวาจาเป็นคนที่สามารถควบคุมทั้งร่างกายของเขาได้
ยากอบได้ยกตัวอย่างเรื่องบังเหียนของม้าและหางเสือของเรือ
ลิ้นแห่งความบาปสามารถทำให้ทั้งร่ายกายเป็นมลทินได้
ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำให้ลิ้นเชื่องได้
ทั้งคำอวยพรและคำแช่งสาปก็ออกมาจากปากเดียวกัน
คนที่ฉลาดและมีความเข้าใจควรสำแดงออกโดยการกระทำด้วยความถ่อมใจ
คนที่มีความริษยาอย่างขมขื่นและความมักใหญ่ใฝ่สูงที่เห็นแก่ตัวก็มีสติปัญญาที่มาจากโลกนี้ ไม่ใช่อยู่ฝ่ายจิตวิญญาณ และถูกควบคุมโดยปีศาจ
คนที่รักสันติ อ่อนสุภาพ มีใจอบอุ่น เต็มด้วยเมตตาและเกิดผลอันดี ไม่ลำเอียง และจริงใจ คือผู้ที่มีสติปัญญาที่มาจากเบื้องบน
1 การทะเลาะวิวาทและโต้เถียงกันท่ามกลางพวกท่านนั้นมาจากแหล่งใดหรือ? ไม่ได้มาจากความปรารถนาชั่วของพวกท่านที่ต่อสู้กันเองในท่ามกลางสมาชิกของพวกท่านหรืออย่างไร? 2 พวกท่านปรารถนาและพวกท่านไม่ได้รับ พวกท่านเข่นฆ่าและอยากได้ของของคนอื่น พวกท่านไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ พวกท่านก็ต่อสู้และทะเลาะวิวาทกัน พวกท่านไม่ได้เป็นเจ้าของก็เพราะว่าพวกท่านไม่ได้ขอ 3 พวกท่านขอและไม่ได้รับก็เพราะพวกท่านขออย่างเลวร้าย คือ ขอไปเพื่อใช้ตอบสนองความปรารถนาชั่วของพวกท่าน
4 พวกท่านเป็นหญิงเล่นชู้ พวกท่านไม่รู้หรือว่าการเป็นมิตรกับโลกนี้ก็คือการเป็นศัตรูต่อต้านพระเจ้า? ด้วยเหตุนี้ใครก็ตามที่ต้องการเป็นมิตรกับโลกนี้ก็ทำตัวให้เป็นศัตรูของพระเจ้า 5 หรือพวกท่านคิดว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นกล่าวอย่างไร้ประโยชน์ว่า "พระวิญญาณที่พระองค์ประทานให้อยู่ภายในพวกเรานั้นมีความหึงหวงอย่างรุนแรง?"
6 แต่พระเจ้าประทานพระคุณที่มากขึ้น ดังที่พระคัมภีร์กล่าวเอาไว้ว่า "พระเจ้าต่อสู้ผู้ที่หยิ่งจองหอง แต่ประทานพระคุณให้แก่คนที่ถ่อมใจ" 7 ดังนั้นจงยอมจำนนต่อพระเจ้า จงต่อสู้กับมารและมันจะหนีไปจากพวกท่าน
8 จงเข้ามาใกล้พระเจ้า และพระองค์จะเข้ามาใกล้พวกท่าน พวกท่านผู้เป็นคนบาป จงชำระมือของพวกท่านให้สะอาด พวกท่านคนสองใจ จงให้หัวใจของพวกท่านให้บริสุทธิ์ 9 จงโศกเศร้า คร่ำครวญ และร้องไห้ จงให้คนที่หัวเราะเปลี่ยนเป็นร้องไห้ และคนที่ชื่นชมยินดีเปลี่ยนเป็นคร่ำครวญ 10 จงถ่อมใจลงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์จะยกชูพวกท่านขึ้น
11 พี่น้องเอ๋ย อย่าพูดต่อต้านกันและกัน คนที่พูดต่อต้านพี่น้องของเขาหรือตัดสินพี่น้องของเขาก็ต่อต้านกฎบัญญัติและตัดสินกฎบัญญัติ ถ้าพวกท่านตัดสินกฎบัญญัติ พวกท่านก็ไม่ได้เป็นผู้ทำตามกฎบัญญัติ แต่เป็นผู้ตัดสิน 12 มีเพียงผู้เดียวที่ประทานกฎบัญญัติและตัดสินได้ พระองค์คือผู้นั้นที่สามารถให้ชีวิตและทำลายชีวิตได้ แล้วพวกท่านเป็นใครหรือที่จะมาตัดสินเพื่อนบ้านของพวกท่านอย่างนั้นหรือ?
13 บัดนี้จงฟัง พวกท่านผู้กล่าวว่า "วันนี้หรือพรุ่งนี้ พวกเราจะเข้าไปในเมืองนี้ ใช้เวลาหนึ่งปีที่นั่นเพื่อค้าขายและทำกำไร" 14 ใครจะรู้หรือว่าวันพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น และชีวิตของพวกท่านจะเป็นอย่างไร? เพราะพวกท่านเป็นหมอกที่ปรากฎในช่วงเวลาสั้นๆ และจากนั้นก็จางหายไป
15 แทนที่จะเป็นอย่างนั้น พวกท่านสมควรกล่าวว่า "ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าปรารถนา พวกเราจะมีชีวิตอยู่และทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น" 16 แต่ตอนนี้พวกท่านกำลังโอ้อวดแผนงานแห่งความจองหองของพวกท่าน การโอ้อวดทั้งหมดเป็นความชั่วร้าย 17 ดังนั้นใครก็ตามที่รู้ว่าทำดีอย่างไรแล้วไม่ทำ เขาก็ทำบาป
ยากอบตักเตือนผู้เชื่อเหล่านี้ในเรื่องฝ่ายโลกของพวกเขาและการไม่ถ่อมใจของพวกเขา ท่านได้เริ่มตักเตือนพวกเขาให้ระวังเรื่องการพูดกับคนอื่นและการพูดถึงกันและกัน
ในตอนนี้ คำว่า "ของพวกท่านเอง" "ของพวกท่าน" และ "พวกท่าน" เป็นคำพหูพจน์และหมายถึงผู้เชื่อที่ยากอบได้เขียนจดหมายไปหา
คำว่า "ทะเลาะวิวาท" และ "โต้เถียง" ปกติแล้วจะมีความหมายเหมือนกัน ยากอบใช้คำเหล่านี้เพื่อเน้นว่าท่านกำลังพูดถึงการขัดแย้งกันทุกรูปแบบระหว่างผู้คน (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
พฤติกรรมแบบนี้ถูกพูดถึงเหมือนกับว่าเป็นวัตถุสิ่งของที่สามารถมาจากบางแห่งได้ (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
ยากอบใช้คำถามนี้เพื่อตักเตือนผู้ฟังของท่าน ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "มันเป็นเพราะพวกท่านมีความปรารถนาชั่ว" หรือ "มันเป็นเพราะว่าท่านปรารถนาในสิ่งที่ชั่ว" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
ยากอบพูดถึงความปรารถนาเหมือนกับมันเป็นศัตรูที่ก่อสงครามกับบรรดาผู้เชื่อ ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นเพราะผู้คนที่มีความปรารถนาเหล่านี้ที่ต่อสู้ในท่ามกลางกันเอง คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พวกท่านปรารถนาในสิ่งชั่ว และพวกท่านก็จบลงด้วยการทำร้ายกันและกัน" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
ความหมายที่เป็นไปได้คือ 1) มีการต่อสู้ในท่ามกลางผู้เชื่อ ณ ที่นั่น หรือ 2) การต่อสู้ซึ่งเป็นการขัดแย้งกันอยู่ภายในผู้เชื่อแต่ละคน
คำว่า "พวกท่านเข่นฆ่า" บรรยายถึงกระประพฤติตัวที่แย่มากของผู้คนเพื่อจะได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พวกท่านทำความชั่วทุกอย่างเพื่อจะได้สิ่งซึ่งท่านไม่สามารถมีไว้ได้" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/%7CHyperbole )
คำว่า "ต่อสู้" และ "ทะเลาะ" ปกติแล้วจะมีความหมายเดียวกัน ยากอบใช้ทั้งสองคำนี้เพื่อเน้นว่าผู้คนต่างทะเลาะกันมากมายเพียงใด คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พวกท่านต่อสู้กันอยู่ตลอดเวลา" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
ความหมายที่เป็นไปได้คือ 1) "พวกท่านขอด้วยท่าทีที่ไม่ถูกต้อง" หรือ "พวกท่านขอด้วยท่าทีที่เลวร้าย" หรือ 2) "พวกท่านกำลังขอสิ่งที่ผิด" หรือ "พวกท่านกำลังของสิ่งที่แย่"
ยากอบพูดถึงผู้เชื่อว่าเป็นเหมือนภรรยาที่ไปหลับนอนกับชายอื่นนอกเหนือจากสามีของเธอเอง คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พวกท่านไม่ได้ซื่อสัตย์กับพระเจ้า"
ยากอบใช้คำถามนี้เพื่อสอนผู้ฟังของท่าน ประโยคนี้สามารถแปลให้เป็นคำพูดปกติได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พวกท่านรู้จัก....พระเจ้า" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
วลีนี้หมายถึงการเข้าร่วมหรือมีส่วนในระบบค่านิยมและการประพฤติของโลก
ระบบค่านิยมของโลกในข้อนี้ถูกพูดถึงเหมือนกับเป็นบุคคลหนึ่งที่คนอื่นสามารถมาเป็นเพื่อนได้ (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
การเป็นมิตรกับโลกหมายความว่าคนนั้นเป็นศัตรูของพระเจ้า ในข้อนี้คำว่า "เป็นมิตรกับโลก" หมายถึงผู้คนที่เป็นมิตรกับโลก และคำว่า "ทำตัวเป็นศัตรูของพระเจ้า" หมายความถึงคนที่เป็นศัตรูต่อต้านพระเจ้า คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เป็นมิตรกับโลกเป็นศัตรูกับพระเจ้า" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
นี่คือคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบที่ยากอบใช้เพื่อหนุนใจผู้ฟังของท่าน การพูดพล่อยๆ เป็นการพูดที่ไร้ประโยชน์ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "มีเหตุผลในสิ่งที่พระคัมภีร์พูด"
บางฉบับแปล รวมถึงฉบับ ULB เข้าใจว่าคำนี้หมายถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ ฉบับแปลอื่นแปลคำนี้ว่า "วิญญาณ" และหมายถึงวิญญาณของมนุษย์ที่แต่ละคนมีตั้งแต่ถูกสร้างมาแล้ว เราของแนะนำว่าให้ท่านใช้ความหมายที่มีอยู่ฉบับแปลของผู้ฟังของท่าน
แปลให้เห็นอย่างชัดเจนว่าประโยคนี้เชื่อมโยงกับข้อที่ผ่านมา "แต่แม้ว่าวิญญาณของพวกเราอาจปรารถนาในสิ่งที่เรามีไม่ได้ พระเจ้าทรงประทานพระคุณให้เรามากกว่านั้น ถ้าเราจะถ่อมใจของเราเอง" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
พระคุณถูกมองว่าเป็นเหมือนวัตถุสิ่งของที่สามารถมอบให้กันได้
"คนหยิ่งจองหอง" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
"คนถ่อมใจ"
"เพราะเหตุนี้"
"เชื่อฟังทำตามพระเจ้า"
"ต่อต้านมาร" หรือ "อย่าทำตามที่มารอยากให้ทำ"
"มันจะวิ่งหนีไป"
คำบุพบทตรงนี้เป็นคำพหูพจน์และหมายถึงผู้ฟังของยากอบ
คำว่า "พวกท่าน" ในข้อนี้หมายถึงบรรดาผู้เชื่อที่กระจัดกระจายไปที่ยากอบได้เขียนถึง
นี่คือแนวความคิดแห่งการเข้ามายืนอยู่ใกล้ๆ เพื่อจะได้กลายเป็นคนจริงใจและเปิดใจต่อพระเจ้า
ใจ เหล่านี่เป็นสองประโยคที่ขนานควบคู่กันไป
ถ้อยคำนี้เป็นคำสั่งให้ผู้คนประพฤติตัวอย่างชอบธรรมแทนที่จะประพฤติตัวอธรรมคำแปลอีกอย่างหนึ่ง "จงประพฤติในแบบที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า"
คำว่า "หัวใจ" ในข้อนี้หมายถึงความคิดและอารมณ์ของบุคคลหนึ่ง คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "จงถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยความคิดของท่าน" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
ใจ คำว่า "สองใจ" หมายถึงบุคคลที่ไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่ในบางสิ่ง คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "คนสองความคิด" หรือ "คนที่ไม่สามารถตัดสินใจว่าคุณอยากเชื่อฟังทำตามพระเจ้าหรือไม่"
ทั้งสามคำนี้มีความหมายคล้ายกัน ยากอบใช้คำเหล่านี้ร่วมกันเพื่อเน้นว่าผู้คนควรเสียใจจริงๆ ต่อการไม่เชื่อฟังทำตามพระเจ้า ยากอบบอกไว้เหมือนกับเป็นคำสั่ง (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_doublet และ file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_exclamations )
นี่เป็นการพูดถึงเรื่องเดียวกันและพูดคนละรูปแบบเพื่อเป็นการเน้นย้ำ การหัวเราะถูกพูดถึงเหมือนกับเป็นวัตถุสิ่งของที่สามารถเปลี่ยนร่างกายเป็นความเศร้าได้ เช่นเดียวกับจากชื่นชมยินดีไปเป็นคร่ำครวญ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "จงหยุดการหัวเราะของพวกท่านในทันทีและเริ่มทูลพระเจ้าว่าท่านขอโทษ" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_parallelism และ file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/figs_parallelism )
"จงถ่อมใจลงต่อพระเจ้า" การกระทำที่คิดถึงพระเจ้ามักถูกพูดถึงบ่อยๆ เหมือนกับว่าได้อยู่ต่อหน้าของพระองค์จริงๆ
ยากอบพูดถึงการที่พระเจ้าทรงให้เกียรติแก่คนที่ถ่อมใจเหมือนกับว่าพระเจ้าทรงยกคนนั้นขึ้นมาจากพื้นดินจริงๆ ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนนั้นก้มกราบลงด้วยความถ่อมใจ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระองค์จะให้เกียรติท่าน"
คำว่า "พวกท่าน" และ "ของพวกท่าน" ในตอนนี้หมายถึงบรรดาผู้เชื่อที่ยากอบได้เขียนถึง
"พูดไม่ดีถึง..." หรือ "ขัดขวาง"
ยากอบพูดถึงบรรดาผู้เชื่อเหมือนกับพวกเขาเป็นพี่น้องทางสายเลือดคำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เพื่อนร่วมความเชื่อ" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
"แต่พวกท่านทำตัวเหมือนกับว่าพวกท่านเป็นผู้ตั้งกฎบัญญัติ"
ข้อนี้หมายถึงพระเจ้า "พระเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่ทรงประทานกฎบัญญัตและตัดสินผู้คนได้"
ยากอบได้ใช้คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบเพื่อต่อว่าผู้ฟังของท่าน ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ท่านเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งและไม่สามารถตัดสินมนุษย์คนอื่นได้" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/%7CRhetorical%20Question)
ยากอบพูดถึงการใช้เวลาเหมือนกับการใช้เงินทอง "อยู่ที่นั่นเป็นเวลาหนึ่งปี"
ยากอบใช้คำถามนี้เพื่อปรับปรุงแก้ไขผู้ฟังของท่าน ถ้อยคำนี้อาจเป็นแปลคำพูดปกติก็ได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันพรุ่งนี้" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
ยากอบใช้คำถามนี้เพื่อสอนผู้เชื่อเหล่านี้ว่าชีวิตฝ่ายกายไม่ใช่สิ่งสำคัญ ประโยคนี้สามารถแปลเป็นคำพูดปกติได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "และคิดถึงชีวิตฝ่ายกายของท่าน"
ยากอบพูดถึงผู้คนว่าเป็นเหมือนกับหมอกที่ปรากฏแล้วก็หายไปอย่างรวดเร็ว คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พวกท่านมีชีวิตอยู่เพียงชั่วเวลาสั้นๆ และพวกท่านก็ตายไป" (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
"แทนที่จะเป็นอย่างนั้น พวกท่านควรมีท่าทีว่า"
คำว่า "พวกเรา" นี้ไม่ได้หมายถึงยากอบหรือผู้ฟังของท่านโดยตรงแต่เป็นตัวอย่างถึงว่าผู้ฟังของยากอบควรจะประพฤติแบบนั้น
"ทำในสิ่งที่พวกเราได้วางแผนไว้"
ใครก็ตามที่ล้มเหลวในการทำดีที่เขารู้ว่าควรทำก็มีความผิดในการทำบาป
ต้นเหตุคือความปรารถนาชั่วทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทในท่ามกลางพวกเขา
พวกเขาไม่ได้รับเพราะว่าพวกเขาขอสิ่งที่เลวร้ายเพื่อสนองต่อความปรารถนาชั่วของพวกเขาเอง
คนที่ตัดสินใจเป็นมิตรกับโลกก็ทำตัวเป็นศัตรูต่อพระเจ้า
พระเจ้าทรงต่อสู้กับผู้ที่หยิ่งจองหอง แต่ทรงประทานพระคุณให้แก่คนที่ถ่อมใจ"
มารจะหนีไป
พระเจ้าก็จะเข้ามาใกล้บรรดาคนที่เข้ามาใกล้พระองค์
ยากอบบอกผู้เชื่อว่าอย่าพูดต่อต้านกันและกัน
ยากอบบอกผู้เชื่อให้พูดว่า ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าอนุญาต พวกเราจะมีชีวิตอยู่และทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น
ยากอบได้พูดถึงบรรดาคนที่โอ้อวดเกี่ยวกับแผนงานของตนเองเป็นการกระทำชั่ว
ถ้าผู้ใดรู้ว่าควรกระทำความดีแต่ไม่กระทำ นั่นก็เป็นการทำบาป
1 บัดนี้จงมาเถิด พวกท่านผู้มั่งคั่ง จงร้องไห้และคร่ำครวญเพราะความลำเค็ญจะมาถึงพวกท่าน 2 ความมั่งคั่งของพวกท่านได้ถูกทำให้เสื่อมทราม และเสื้อผ้าของพวกท่านถูกแมลงกัดกิน 3 ทองและเงินของพวกท่านถูกทำให้สึกกร่อน การสึกกร่อนเหล่านั้นจะเป็นพยานต่อต้านพวกท่าน มันจะเป็นเหมือนดั่งไฟเผาผลาญเนื้อหนังของพวกท่าน พวกท่านได้สะสมทรัพย์สมบัติของพวกท่านเพื่อวาระสุดท้าย
4 ดูเถิด ค่าจ้างของคนงานก็ส่งเสียงร้องดัง ค่าจ้างที่พวกท่านได้ยึดไว้จากคนงานเก็บเกี่ยวในทุ่งนาของพวกท่าน เสียงร้องของผู้เก็บเกี่ยวก็ดังไปถึงพระกรรณขององค์พระเจ้าจอมเจ้านาย 5 พวกท่านได้ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยในโลกนี้และปล่อยตัวตามใจปรารถนาของพวกท่าน พวกท่านบำรุงเลี้ยงหัวใจของพวกท่านเพื่อมาถึงวันประหาร 6 พวกท่านได้กล่าวโทษและประหารผู้ชอบธรรมโดยที่เขาไม่ได้ต่อต้านพวกท่านเลย
7 พี่น้องเอ๋ย ดังนั้นจงอดทนจนกว่าจะถึงวันแห่งการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ดูเถิด ชาวนาทั้งหลายต่างก็รอคอยการเก็บเกี่ยวอย่างคุ้มค่าจากผืนแผ่นดิน เขารอคอยด้วยความอดทนจนกระทั่งผืนดินจะได้รับฝนต้นฤดูและฝนปลายฤดู 8 พวกท่านเองก็เช่นเดียวกัน จงอดทน จงทำให้ใจของพวกท่านเข้มแข็ง เพราะการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็เข้ามาใกล้แล้ว
9 พี่น้องเอ๋ย อย่าบ่นว่า อย่าต่อต้านกันและกัน เพื่อพวกท่านจะไม่ถูกพิพากษา ดูเถิด การพิพากษานั้นยืนรออยู่ที่ประตู 10 พี่น้องทั้งหลาย จงเอาการทนทุกข์และการอดทนของบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้ที่กล่าวในนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นตัวอย่างเถิด 11 พวกเรานับถือบรรดาคนเหล่านั้นที่อดทนว่าเป็นผู้ที่ได้รับพร พวกท่านได้ยินถึงความอดทนของโยบ และพวกท่านรู้ถึงพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่าพระองค์มีความเมตตาและสงสารมากเพียงใด
12 เหนือสิ่งอื่นใด พี่น้องของข้าพเจ้า จงอย่าสาบาน ไม่ว่าจะโดยอ้างถึงฟ้าสวรรค์หรือแผ่นดินโลก หรือโดยคำสัตย์ปฏิญาณอื่นใด "ใช่" ก็หมายถึง "ใช่" และ คำว่า "ไม่" ของท่านก็จงหมายถึง "ไม่" เพื่อพวกท่านจะไม่ตกอยู่ภายใต้การพิพากษา
13 มีผู้ใดในพวกท่านที่ทนทุกข์ลำบากหรือ? จงให้เขาอธิษฐาน มีผู้ใดที่ชื่นชมยินดีหรือ? จงให้เขาร้องเพลงสรรเสริญ 14 มีผู้ใดในพวกท่านที่เจ็บป่วยหรือ? จงให้เขาเรียกบรรดาผู้ปกครองของคริสตจักร และให้พวกเขาอธิษฐานเผื่อ เจิมเขาด้วยน้ำมันในนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า 15 คำอธิษฐานแห่งความเชื่อจะรักษาคนป่วย และพระเจ้าจะทำให้เขาลุกขึ้นได้ ถ้าเขาทำบาป พระเจ้าจะยกโทษให้แก่เขา
16 ดังนั้นจงสารภาพบาปต่อกันและกัน และอธิษฐานเผื่อกันและกัน เพื่อพวกท่านจะได้รับการรักษา คำอธิษฐานของคนหนึ่งที่ชอบธรรมมีพลังอย่างเข้มแข็งมาก 17 เอลียาห์เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เหมือนกับพวกเรา เขาได้อธิษฐานอย่างร้อนรนเพื่อไม่ให้ฝนตก และฝนก็ไม่ตกลงมารดแผ่นดินเป็นเวลาสามปีกับหกเดือน 18 และเอลียาห์ได้อธิษฐานอีกครั้ง ฟ้าสวรรค์ก็ให้ฝนลงมา และแผ่นดินก็เกิดดอกออกผล
19 พี่น้องของข้าพเจ้า ถ้าหากคนใดในท่ามกลางพวกท่านหันเหไปจากความจริง และมีบางคนนำเขากลับคืนมา 20 ก็ให้คนนั้นรู้ว่าผู้ที่นำคนบาปคนหนึ่งกลับคืนมาจากวิถีที่หันเหของเขาก็จะช่วยเขาให้รอดพ้นจากความตาย และจะปกปิดความบาปมากมายเอาไว้ได้
ยากอบได้เตือนคนร่ำรวยในเรื่องสายตาของพวกเขาที่มองแต่ความสบายและความร่ำรวย
ความหมายที่เป็นไปได้คื 1) ยากอบได้ตักเตือนอย่างเข้มงวดต่อผู้เชื่อที่ร่ำรวย หรือ 2) ยากอบกำลังพูดถึงความร่ำรวยของคนที่ไม่เชื่อ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พวกท่านที่ร่ำรวยและพูดว่าพวกท่านถวายเกียรติแด่พระเจ้า"
ยากอบได้บอกว่าคนเหล่านี้จะต้องทนทุกข์อย่างมากในอนาคต และการทนทุกข์ของพวกเขาเป็นเหมือนวัตถุสิ่งของที่กำลังมุ่งเข้ามาหาพวกเขา คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เพราะพวกท่านจะทนทุกข์อย่างมากในอนาคต"
กัดกิน ทองและเงินของพวกท่านถูกทำให้สึกกร่อน ยากอบพูดถึงเหตการณ์เหล่านี้เหมือนกับเป็นสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ยากอบได้บอกว่าความร่ำรวยของโลกอยู่ได้ไม่นาน และไม่มีคุณค่าที่อยู่นิรันดร์ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ความร่ำรวยของพวกท่านก็เหมาะที่จะเสื่อมทรามลง เสื้อผ้าของพวกท่านก็เหมาะที่จะแมลงกันกิน ทองและเงินของพวกท่านก็เหมาะที่จะสึกกร่อนไป"
ทุกสิ่งที่ถูกกล่าวถึงในตอนนี้เป็นตัวหมายของทุกสิ่งที่มีค่าสำหรับคนร่ำรวย (ดูที่: file:///C:/Program%20Files%20(x86)/translationStudio/resources/app/src/views/ )
"การสึกกร่อน" เป็นคำทั่วไปที่บรรยายถึงการเสื่อมสลายไปตามธรรมชาติของโลหะ ยากอบกำลังพูดถึงการถูกทำลายแบบนี้เหมือนกับเป็นบุคคลหนึ่งกำลังพูดกล่าวหาในห้องพิจารณาคดีของศาลในอาชญากรรมที่พวกเขาได้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "และเมื่อพระเจ้าทรงพิพากษาท่าน ทรัพย์สมบัติที่เสียหายของท่านจะเป็นเหมือนบางคนที่กล่าวหาท่านในศาล" (ดูที่: และ )
การสึกกร่อนในข้อนี้พูดถึงเหมือนกับว่าเป็นไฟที่เผาไหม้เจ้าของ
คำว่า "เนื้อหนัง" ในข้อนี้ หมายถึงถืงร่างกาย
แนวความคิดเรื่องไฟในข้อนี้หมายถึงการทำให้ผู้คนจดจำไว้ว่าไฟนั้นมักหมายถึงการลงโทษของพระเจ้าที่จะลงมาเหนือคนชั่วทั้งปวง
นี่หมายถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนที่พระเจ้าจะเสด็จมาพิพากษาคนทั้งปวง คนชั่วคิดว่าพวกเขาจะสะสมความร่ำรวยไว้ในอนาคต แต่สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่เป็นการสะสมการพิพากษาไว้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เพราะเมื่อพระเจ้าใกล้จะมาพิพากษาพวกท่าน"
ยากอบคอยเตือนคนร่ำรวยในเรื่องสายตาของพวกเขาที่มองแต่ความสบายและความร่ำรวย
เงินที่ควรจ่ายถูกกล่าวถึงเหมือนกับเป็นบุคคลหนึ่งที่กำลังตะโกนร้องเพราะความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับเขา คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ความจริงที่ว่าพวกท่านไม่ได้จ่ายค่าจ้างให้แก่บรรดาคนที่พวกท่านจ้างให้มาทำงานในนาของท่านแสดงว่าท่านได้ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง"
เสียงร้องของผู้เก็บเกี่ยวถูกพูดถึงเหมือนกับว่าเสียงนั้นดังไปถึงสวรรค์ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้าจอมโยธาทรงได้ยินเสียงร้องของบรรดาผู้เก็บเกี่ยว"
พระเจ้าถูกกล่าวถึงว่าเป็นเหมือนผู้ที่มีหูเหมือนมนุษย์มี คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ทรงได้ยิน"
ในข้อนี้ผู้คนถูกมองว่าพวกเขาเป็นเหมือนฝูงสัตว์เลี้ยง ที่ถูกเลี้ยงด้วยอาหารอย่างดีเพื่อพวกมันจะได้อ้วนพีพร้อมที่จะถูกฆ่าเพื่องานเลี้ยง แต่ว่าไม่มีใครจะจัดเลี้ยงในช่วงเวลาแห่งการพิพากษา คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ความโลภของพวกท่านก็เป็นแค่การเตรียมพวกท่านไว้สำหรับการพิพากษานิรันดร์อันรุนแรง"
คำว่า "หัวใจ" ในข้อนี้ถูกใช้เพื่อเล็งถึงศูนย์กลางความปรารถนาของมนุษย์ คำนี้หมายความถึงทั้งตัวบุคคลนั้น
บางทีคำนี้อาจไม่ได้หมายความถึง "การลงโทษ" จริงๆ ในแง่ของผู้พิพากษาตัดสินโทษประหารชีวิตให้แก่ฆาตกร แต่อาจหมายถึงคนชั่วและคนที่มีอำนาจที่ตัดสินใจที่จะกดขี่คนยากจนจนกระทั่งพวกเขาตาย
"คนที่กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง" คำนี้หมายถึงคนชอบธรรมโดยทั่วไปและไม่ได้ระบุว่าเป็นใครคนใดคนหนึ่ง
"ไม่ได้ขัดขวางพวกท่านเลย"
ยากอบเปลี่ยนหัวเรื่องจากการตักเตือนคนร่ำรวยไปเป็นการหนุนใจบรรดาผู้เชื่อ
ในตอนจบ ยากอบได้เตือนผู้เชื่อให้ระลึกถึงการเสด็จมาของพระองค์พระผู้เป็นเจ้าและให้บทเรียนสั้นๆ อีกหลายเรื่องว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
"เพราะเหตุนี้ ให้รอคอยและใจเย็น"
ประโยคนี้หมายถึงการเสด็จกลับมาของพระเยซู เมื่อพระองค์จะเริ่มราชอาณาจักรของพระองค์บนโลกนี้และตัดสินผู้คนทั้งปวง คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "จนกว่าพระคริสต์จะเสด็จกลับมา"
ยากอบสร้างเรื่องเปรียบเทียบโดยยกตัวอย่างจากชาวนาและผู้เชื่อเพื่อสอนว่าการอดทนนั้นมีความหมายว่าอย่างไร
ยากอบกำลังเปรียบเทียบให้จิตใจของผู้เชื่อและความตั้งใจของพวกเขาให้ยังจำนวนอยู่เสมออย่างเท่าเทียมกัน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ให้ยังคงยอมจำนวนต่อไป" หรือ "รักษาความเชื่อของท่านให้เข็มแข็ง"
"องค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาในเร็วๆ นี้"
ยากอบกำลังเขียนถึงผู้เชื่อชาวยิวที่กระจัดกระจายไป
"เกี่ยวกับกันและกัน"
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระคริสต์จะไม่พิพากษาพวกท่าน"
ยากอบเปรียบเทียบพระเยซูซึ่งเป็นผู้พิพากษาว่าเป็นเหมือนคนที่กำลังเดินผ่านประตูเข้ามา เพื่อเน้นว่าพระเยซูจะเสด็จกลับมาเพื่อพิพากษาโลกในอีกไม่นานนี้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ผู้พิพากษากำลังมาในเร็วๆ นี้"
"บรรดาผู้เผยพระวจนะได้ทนทุกข์ต่อการถูกข่มเหงด้วยความอดทนมากเพียงใด"
"พูดแทนองค์พระผู้เป็นเจ้าให้แก่ประชาชน"
คำว่า "ดูเถิด" ในข้อนี้ได้เพิ่มการเน้นในสิ่งที่ตามมา คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "จงฟังให้ดี" หรือ "จงจำไว้ว่า"
"บรรดาคนที่เชื่อฟังทำตามพระเจ้าอยู่ตลอดแม้ในยามทุกข์ยากลำบาก"
"นี่คือเรื่องที่สำคัญ" หรือ "โดยเฉพาะ"
"เพื่อนร่วมความเชื่อกับข้าพเจ้า"
การ "สาบาน" เป็นการพูดว่าคุณจะทำบางสิ่ง หรือบางสิ่งนั้นเป็นเรื่องจริง และยอมรับผิดชอบต่อผู้มีอำนาจที่สูงกว่า คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "อย่ากล่าวสาบาน" หรือ "หรือ "อย่าทำการปฏิญาณ"
คำว่า "ฟ้าสวรรค์" และ "แผ่นดินโลก" หมายถึงฝ่ายวิญญาณหรือสิทธิอำนาจของมนุษย์ที่มีอยู่ในฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
"จงทำตามสิ่งที่ท่านพูด ท่านจะทำโดยไม่ต้องสาบาน"
การถูกลงโทษถูกพูดถึงเหมือนกับคนหนึ่งได้ล้มลง ถูกบดขยี้โดยสิ่งที่มีน้ำหนักมาก คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ดังนั้นพระเจ้าจะลงโทษพวกท่าน"
"ถ้าใครก็ตามที่ทนทุกข์กับปัญหา เขาควรอธิษฐาน"
"ถ้าใครก็ตามมีความสุข เขาควรร้องเพลงสรรเสริญ"
"ถ้าใครก็ตามเจ็บป่วย เขาควรเรียก"
เมื่อผู้เชื่ออธิษฐานเพื่อคนเจ็บป่วย องค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้ยินคำอธิษฐานของพวกเขาและจะทรงรักษาคนเหล่านั้น คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "องค์พระผู้เป็นเจ้าจะฟังผู้เชื่อที่อธิษฐานด้วยความเชื่อ และพระองค์จะทรงรักษาคนเจ็บป่วยนั้น"
ในฐานะที่พวกเขาเป็นผู้เชื่อชาวยิว ยากอบได้เตือนให้พวกเขาที่จะอธิษฐาน โดยยกตัวอย่างผู้เผยพระวจนะท่านหนึ่งในอดีตและการอธิษฐานของผู้เผยพระวจนะท่านนั้น
นี่เป็นการยอมรับต่อผู้เชื่อคนอื่นในสิ่งที่ท่านได้ทำผิดไปเพื่อท่านจะได้รับการอภัย
"ต่อแต่ละคน"
"เพื่อพระเจ้าจะได้รักษาท่าน"
คำอธิษฐานถูกมองเหมือนกับเป็นสิ่งที่เข้มแข็งและมีอำนาจมาก คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เมื่อคนที่เชื่อฟังพระเจ้าและอธิษฐาน พระเจ้าก็จะทรงกระทำสิ่งยิ่งใหญ่"
"กระตืรือล้น" หรือ "ด้วยใจรัก"
"3...6"
คำว่า "ฟ้าสวรรค์" อาจหมายถึงท้องฟ้า ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของน้ำฝน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ฝนตกลงมาจากท้องฟ้า"
คำว่าแผ่นดินในข้อนี้แสดงถึงแหล่งที่มาของพืชผล
คำว่า "ผล" ในข้อนี้หมายถึงพืชผลทุกชนิดของชาวนา
"เพื่อนร่วมความเชื่อ"
ผู้เชื่อที่เลิกไว้วางใจในพระเจ้าและทำตามพระองค์ ถูกกล่าวถึงเหมือนกับเขาเป็นแกะที่เร่ร่อนหลงทางไปจากฝูง คนที่ชักชวนคนนั้นให้กลับมาไว้วางใจในพระเจ้าได้อีกครั้งถูกกล่าวถึงเหมือนกับเขาเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ออกไปเที่ยวเสาะหาแกะที่หลงหาย คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เมื่อไรที่ใครก็ตามเลิกเชื่อฟังทำตามพระเจ้า และอีกคนหนึ่งได้ช่วยเขาให้เริ่มต้นเชื่อฟังทำตามอีกครั้งหนึ่ง"
ยากอบหมายความว่าพระเจ้าจะใช้การกระทำของคนนั้นเพื่อชักชวนคนบาปให้กลับใจและได้รับความรอด แต่ยากอบพูดถึงเหมือนกับว่าเป็นคนนั้นเองที่ช่วยให้จิตวิญญาณของคนบาปได้รอดจากความตาย
คำว่า "ความตาย" ในข้อนี้หมายถึงความตายฝ่ายวิญญาณ เป็นถูกแยกจากพระเจ้านิรันดร์กาล คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "จะช่วยเขาให้รอดจากความตายฝ่ายวิญญาณ และพระเจ้าจะทรงอภัยความบาปนั้นจากความบาปทั้งหมดของเขา"
ความหมายที่เป็นไปได้คือ 1) คนที่ถูกนำพี่น้องที่ไม่เชื่อฟังทำตามกลับมาจะได้รับการอภัยบาปของเขา หรือ 2) พี่น้องที่ไม่เชื่อฟังทำตาม เมื่อเขากลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า จะได้รับการอภัยบาปของเขา ความบาปถูกกล่าวถึงเหมือนกับเป็นสิ่งที่พระเจ้าสามารถปกปิดไว้เพื่อพระองค์จะไม่เห็นมัน เพื่อพระองค์จะอภัยบาปพวกเขาได้
คนมั่งคั่งได้สะสมทรัพย์สมบัติของพวกเขาไว้
คนมั่งคั่งไม่จ่ายค่าแรงคนงานของเขา
คนมั่งคั่งเหล่านี้ได้กล่าวโทษและประหารผู้ชอบธรรม
ผู้เชื่อควรรอคอยการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความอดทน
ผู้เผยพระวจนะในสมัยพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมได้สำแดงความอดทนและยอมทนทุกข์
คำว่า "ใช่" ของผู้เชื่อก็หมายถึง "ใช่" และ คำว่า "ไม่" ก็จงหมายถึง "ไม่"
ให้คนเจ็บป่วยเรียกบรรดาผู้ปกครองเพื่อให้เขาอธิษฐานเผื่อและเจิมเขาด้วยน้ำมัน
ผู้เชื่อควรสารภาพบาปต่อกันและกันและอธิษฐานเผื่อกันและกัน
ตัวอย่างของเอลียาห์แสดงให้เราเห็นว่าคำอธิษฐานของผู้ชอบธรรมนั้นเกิดผลอย่างยิ่งใหญ่
คนที่ชักนำคนบาปให้ออกจากทางที่หลงผิดของเขาก็ช่วยจิตวิญญาณให้รอดพ้นจากความตายและปกปิดความบาปมากมายเอาไว้ได้
คำทั้งหมดเหล่านี้กล่าวถึงคำสั่งและคำสอนต่างๆที่พระเจ้ามอบไว้ให้แก่โมเสสเพื่อให้ชาวอิสราเอลทำตาม คำว่า "กฎ" และ "พระบัญญัติของพระเจ้า" โดยปกติแล้วจะใช้เพื่ออ้างถึงทุกสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้ประชากรของพระองค์เชื่อฟัง
คำเหล่านี้ทั้งหมดกล่าวถึงการมีความกล้าหาญและความมั่นใจในการพูดความจริงและทำสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่า ในเวลาที่มีความยากลำบาก หรืออันตราย
คำว่า "การทดสอบ" อ้างถึงประสบการณ์ที่ยากลำบากหรือเจ็บปวดซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของบุคคล
โดยทั่วไปคำว่า "กำไร" และ "ได้ผลประโยชน์" อ้างถึงการรับสิ่งที่ดีผ่านทางการกระทำบางอย่างหรือการประพฤติ อ้างถึงสิ่งที่ดีที่ได้รับ บางสิ่งจะ "ได้ผลประโยชน์" ต่อใครบางคนถ้ามันนำสิ่งที่ดีสู่พวกเขาหรือถ้ามันช่วยพวกเขาให้นำสิ่งที่ดีไปให้คนอื่น
คำว่า "ขอ" หมายถึงการขอบางสิ่งอย่างเร่งด่วนจากบางคน คำนี้มักจะกล่าวถึงการขอเงิน แต่คำนี้ก็เป็นคำที่ใช้ทั่วไปที่กล่าวถึงการวิงวอนขอบางสิ่งบางอย่าง
คำว่า "ข่มเหง" หรือ "การข่มเหง" อ้างถึงการปฏิบัติต่อบุคคลหรือคนกลุ่มหนึ่งด้วยวิธีการที่โหดร้ายจนก่อให้เกิดอันตรายแก่พวกเขา
ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า "คริสตจักร" กล่าวถึงกลุ่มผู้ศรัทธาในพระเยซูในท้องถิ่น ที่มาประชุมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อที่จะอธิษฐาน และฟังการเผยพระวจนะของพระเจ้า คำว่า "คริสตจักร" มักจะหมายถึงคริสเตียนทุกคน
ครูเป็นบุคคลผู้ที่ให้ข้อมูลใหม่ๆกับผู้คน ครูช่วยให้ผู้อื่นได้รับทั้งความรู้และทักษะด้วย
คำว่า "คร่ำครวญ" และ "การคร่ำครวญ" อ้างถึงการแสดงออกอย่างรุนแรงถึงความเศร้าโศก เสียใจ หรือสลดใจ
คำว่า "คร่ำครวญ" และ "การคร่ำครวญ" อ้างถึงการแสดงถึงความรู้สึกโศกเศร้าอย่างมากต่อการเสียชีวิตของบางคน
คำว่า "คร่ำครวญ" อ้างถึงการเปล่งเสียงลึกเสียงต่ำซึ่งเกิดจากความทุกข์ทางร่างกายหรือจิตใจ โดยปกติมักจะคร่ำครวญโดยไม่มีคำใด ๆ
โดยทั่วไป คำว่า "ความเชื่อ" กล่าวถึง ความศรัทธา ความวางใจหรือความมั่นใจในบางคน หรือบางสิ่ง
คำว่า "ความเมตตา" กล่าวถึงความรู้สึกห่วงใยผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเหล่านั้นที่ได้รับความทุกข์ยาก คนที่ "มีความเมตตา" ห่วงใยคนอื่นและช่วยเหลือพวกเขา
คำว่า "จริง" และ "ความจริง" อ้างถึงแนวคิดที่เป็นข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและข้อความที่ได้พูดจริง
คำว่า "ฉลาด" อธิบายถึงคนที่เข้าใจว่าอะไรเป็นสิ่งที่ถูกต้องและมีคุณธรรมที่จะทำสิ่งนั้น "ความฉลาด" คือความเข้าใจและการปฏิบัติในสิ่งที่เป็นความจริงและถูกต้องตามหลักศีลธรรม
คำว่า "ชอบธรรม" และ "ความชอบธรรม"อ้างถึงความดีอันแท้จริงของพระเจ้า ความยุติธรรม ความซื่อสัตย์ และความรัก เพราะพระเจ้าทรงเป็นผู้ชอบธรรม พระองค์จึงต้องลงโทษความบาป
คำว่า "ชั่ว" และ "ชั่วร้าย" ทั้งสองคำ อ้างถึง สิ่งใดก็ตามที่ตรงข้ามกับพระลักษณะที่บริสุทธิ์และน้ำพระทัยของพระเจ้า
คำทั้งหมดเหล่านี้อ้างถึงการมีชีวิตอยู่ในฝ่ายร่างกาย ไม่ใช่การตาย คำเหล่านี้ยังใช้บ่อยครั้งในเชิงอุปมาอุปมัยเพื่ออ้างถึงการมีชีวิตในฝ่ายวิญญาณอีกด้วย คำอธิบายต่อไปนี้หมายถึง "ชีวิตฝ่ายร่างกาย" และ "ชีวิตฝ่ายวิญญาณ"
คำว่า "ชื่นชมยินดี" หมายถึง การเต็มล้นไปด้วยความสุขใจและความยินดี
ในพระคัมภีร์นั้น คำว่า "ชื่อ" สามารถใช้ในเชิงอุปมาอุปมัยได้หลายทาง
มารเป็นวิญญาณหนึ่งที่พระเจ้าได้ทรงเนรมิตขึ้น แต่มันได้กบฎต่อพระเจ้าและกลายมาเป็นศัตรูของพระเจ้า มารยังถูกเรียกอีกชื่อว่า "ซาตาน" และ "ผู้ชั่วร้าย"
คำว่า "ดับ" หมายถึง การทำให้ดับ หรือ หยุดบางสิ่งที่กำลังเรียกร้องที่จะทำให้พึงพอใจ
พระวิญญาณบริสุทธิ์จากการสำแดงฤทธิ์เดชของพระองค์อย่างอิสระและทำงานในคน
คำว่า "ดี" มีความหมายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริบท หลายภาษาจะใช้คำอื่นในการแปลความหมายที่แตกต่างกันเหล่านี้
คำว่า "ตัดสิน" และ "พิพากษา" มักจะอ้างถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับบางสิ่งในทางศีลธรรมว่าถูกหรือผิด
คำว่า "ตัวสั่น" หมายถึงการสั่นหรือตัวสั่นจากความกลัวหรือความทุกข์ทรมานมาก
คำว่า "ถ่อมใจ" อธิบายถึงบุุคคลที่ไม่คิดว่าตนเองดีกว่าคนอื่น เขาไม่ได้หยิ่งหรือทะนงตัว การถ่อมใจคือคุณภาพของการเป็นคนถ่อม
การทดลองใครสักคนเป็นการพยายามให้บุคคลนั้นทำสิ่งที่ผิด
ทองคำเป็นโลหะสีเหลืองที่มีค่ามาก ที่ใช้ทำเครื่องประดับและสิ่งของในศาสนา เป็นโลหะที่มีค่ามากที่สุดในโลกยุคโบราณ
ในพระคัมภีร์ "ทะเลยิ่งใหญ่" หรือ "ทะเลตะวันตก" อ้างถึง "ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน" ในปัจจุบัน ซึ่งในสมัยพระคัมภีร์เป็นสิ่งที่ใหญ่ที่สุดที่รู้จักกันของประชาชน
คำว่า "ทาน" กล่าวถึงเงิน อาหาร หรือสิ่งอื่นๆ ทั้งหลายที่ให้เพื่อช่วยเหลือคนยากจน
การ "ทำลาย" ของบางสิ่งบางอย่างหมายถึงการทำให้เสีย ทำลาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ คำว่า"ซากปรักหักพัง" อ้างถึงเศษซากและสิ่งต่างๆ ที่ถูกทำลายแล้วที่เหลืออยู่
นอกเหนือไปจากความหมายหลักแล้ว "น้ำ" ยังอ้างถึงแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่นมหาสมุทร ทะเล ทะเลสาบ หรือแม่น้ำ
คำว่า "น้ำพุ" และ "น้ำพุธรรมชาติ" ปกติกล่าวถึงน้ำจำนวนมากที่ไหลขึ้นมาอย่างธรรมชาติ ขึ้นจากพื้นดิน
น้ำมัน เป็นของเหลวที่มีลักษณะข้นและใส ที่สกัดมาจากพืชหรือผลไม้ต่างๆ ในสมัยพระคัมภีร์ โดยปกติน้ำมันจะสกัดมาจากผลมะกอก
คำว่า "บริสุทธิ์" และ "ความบริสุทธิ์" อ้างถึงพระลักษณะของพระเจ้าที่แยกออกมาโดยสิ้นเชิงและแยกจากทุกสิ่งที่เป็นความบาปและไม่สมบูรณ์แบบ
"บริสุทธิ์" หมายถึงการไม่มีตำหนิหรือไม่มีอะไรผสมในสิ่งที่ไม่ควรจะอยู่ที่นั่น การชำระให้สะอาดแก่บางสิ่งบางอย่างเป็นการทำให้สะอาดและขจัดสิ่งปนเปื้อนหรือสิ่งที่ทำให้เป็นมลพิษออกไป
คำว่า "บาป" อ้างถึงการกระทำ ความคิด และคำพูดต่างๆ ที่ต่อต้านน้ำพระทัยและกฏเกณฑ์ของพระเจ้า บาปยังอ้างถึงการไม่ทำในสิ่งที่พระเจ้าประสงค์ให้เราทำ
คำว่า "บุตร" อ้างถึงเด็กผู้ชายหรือผู้ชายที่มีความสัมพันธ์เป็นพ่อแม่ของเขา และยังอ้างถึงเชื้อสายของใครบางคนหรือลูกบุญธรรม
คำว่า "บ่อน้ำ" และ "ถังเก็บน้ำ" อ้างถึงแหล่งน้ำสองประเภทในสมัยพระคัมภีร์
คำว่า "บ้าน" มักจะถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยในพระคัมภีร์
คำว่า "ปกครอง" หมายถึง การปกครองเหนือประชากรในประเทศหรือ อาณาจักรหนึ่งในฐานะกษัตริย์องค์หนึ่ง การครองราชย์ของกษัตริย์องค์หนึ่ง คือ ช่วงเวลาที่พระองค์กำลังปกครองอยู่
"ประตู" คือเครื่องกีดขวางที่ทางเข้าที่รั้วหรือกำแพงล้อมรอบบ้านหรือเมือง "ราวประตู" อ้างถึงราวไม้หรือราวเหล็กที่สามารถเลื่อนมาล็อกที่ประตู
คำว่า "ปล่อยตัว" หมายความถึงการประกาศอย่างเป็นทางการว่าคนนั้นไม่มีความผิดตามกฎหมายหรือประพฤติผิดศีลธรรมตามที่เขาถูกกล่าวหา
คำว่า "ผลแรก" กล่าวถึงส่วนแรกของพืชผลและผักที่ถูกเก็บเกี่ยวในระหว่างฤดูกาลเก็บเกี่ยวแต่ละครั้ง
"ผู้ปกครอง" คือบุคคลที่ปกครองเหนือรัฐ ภูมิภาค หรือเขตแดน คำว่า "ปกครอง" หมายถึงการให้คำแนะนำ นำทาง หรือบริหารจัดการประชาชน
คำว่า"ผู้ปกครอง"ทั่วไปจะเป็นการอ้างอิงถึงบุคคลที่มีอำนาจเหนือคนอื่น เช่นผู้นำของประเทศ อาณาจักร หรือกลุ่มศาสนา
ในพระคัมภีร์ คำว่า "ผู้รับใช้" และ "พันธกิจ" อ้างถึงการรับใช้ผู้อื่นด้วยการสอนพระคำของพระเจ้าและการดูแลฝ่ายจิตวิญญาณ ส่วนคำว่า "ผู้รับใช้" นั้น สามารถอ้างถึงบุคคลผู้ที่รับใช้คนอื่นในทางนี้
คำว่า "ผู้สื่อสาร" อ้างถึงบางคนผู้ซึ่งได้รับมอบข่าวสารเพื่อบอกแก่ผู้อื่น
"ผู้เผยพระวจนะ" คือ ผู้ชายที่พูดข่าวสารของพระเจ้าให้แก่ประชาชน ผู้หญิงที่ทำแบบนี้เรียกว่า "ผู้เผยพระวจนะหญิง"
คำว่า "ฝัง" โดยทั่วไปกล่าวถึงการนำร่างกายที่ตายแล้วลงไปในหลุม หรือสถานที่ฝังศพอย่างอื่น คำว่า "การฝัง" เป็นการกระทำที่ฝังบางสิ่ง หรือใช้อธิบายสถานที่ที่ใช้ฝังบางสิ่ง
คำว่า "พยาน" อ้างถึงถึงบุคคลผู้ที่มีประสบการณ์ส่วนตัวบางอย่างที่เกิดขึ้น โดยปกติพยานเป็นบางคนผู้ซึ่งเป็นพยานในสิ่งพวกเขารู้ว่าเป็นความจริง คำว่า "สักขีพยาน" จะเน้นที่ตัวบุคคลนั้นอยู่ที่นั่นจริงๆ และได้เห็นว่าได้เกิดอะไรขึ้น
คำว่า "พระคุณ" อ้างถึงการช่วยเหลือหรือคำอวยพรแก่ผู้ที่ยังไม่ได้รับ คำว่า "มีพระคุณ" จะอธิบายถึงคนที่แสดงพระคุณต่อผู้อื่น
พระบัญญัติ เป็นกฎหมายเฉพาะที่เขียนขึ้นเพื่อเป็นแนวทางสำหรับประชาชนเพื่อปฏิบัติตามในการใช้ชีวิต
่้ทั่วไปแล้วคำว่า "พระสิริ" หมายถึงเกียรติ ความสง่างามและความยิ่งใหญ่ที่สุด สิ่งใดก็ตามที่มีพระสิริก็คือการมี "สง่าราศี"
คำกล่าว "พระสิริใน" สามารถแปลว่า "สรรเสริญ" หรือ "ภูมิใจใน" หรือ "โอ้อวดเรื่อง" หรือ "ชื่นชมใน"
ในพระคัมภีร์คำว่า "พระเจ้า" อ้างถึงผู้ที่มีชีวิตนิรันดร์ ผู้ทรงสร้างจักรวาลจากความว่างเปล่า พระเจ้าทรงเป็นอยู่ในฐานะ พระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระนามของพระเจ้าคือ "พระยาห์เวห์"
คำว่า "พระเจ้า" กล่าวถึงบรรดาสิ่งที่เกี่ยวกับพระเจ้า
พระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระนาม "เยซู" หมายถึง "พระยาห์เวห์ทรงช่วยให้รอด" คำว่า "พระคริสต์" เป็นตำแหน่งที่หมายถึง "ผู้ได้รับการเจิม" และเป็นอีกคำหนึ่งที่แปลว่าพระเมสสิยาห์
มงกุฎเป็นของตกแต่ง หมวกทรงกลมสวมบนศีรษะของพวกผู้ปกครองเช่นพวกกษัตริย์และราชินี คำว่า "สวมมงกุฎ" หมายถึงการใส่มงกุฎบนศีรษะของใครบางคน เปรียบเทียบหมายถึง "เพื่อเป็นเกียรติ"
มะกอกเป็นผลไม้ขนาดเล็กรูปไข่จากต้นมะกอก ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกในแถบรอบๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
มะเดื่อเป็นผลไม้ผลเล็กๆ นุ่ม มีรสหวานซึ่งเป็นผลจากต้นมะเดื่อ เมื่อผลสุก ผลนี้มีหลายสี รวมทั้งสีน้ำตาล สีเหลือง หรือสีม่วง
มีวิธีอุปมาอุปไมยหลายอย่างที่ "มือ" ถูกใช้ในพระคัมภีร์
ม้าคือสัตว์สี่ขาขนาดใหญ่ที่ในสมัยพระคัมภีร์ถูกใช้ในการทำสวนและขนส่งผู้คน
การยกชู คือการสรรเสริญที่สูงส่งและการให้เกียรติบางคน อีกทั้งสามารถหมายถึงการวางบางคนในตำแหน่งที่สูง
ยกโทษให้บางคนหมายถึงการไม่ยึดเหนี่ยวความขุ่นเคืองใจที่มีต่อบุคคลผู้ที่ได้ทำบางสิ่งที่แสนเจ็บปวด "การยกโทษ" คือการกระทำของการยกโทษให้บางคน
คำว่า"ยอมจำนน" ปกติหมายถึงการกระทำด้วยความสมัครใจของตัวเองภายใต้อำนาจของบุคคลหรือรัฐบาล
คำว่า "ยึด" หมายถึงการเอามาหรือจับบางคนหรือบางสิ่งด้วยกำลังบังคับ สามารถหมายถึงการเอาชนะหรือควบคุมใครสักคน
คำว่า "การรักษา" และ "เยียวยา" ทั้งสองคำหมายความว่า เป็นเหตุให้ความเจ็บป่วย บาดแผล หรือบุคคลพิการ กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง
คำว่า "รับมรดก" และ "การรับมรดก" อ้างถึงการรับบางอย่างที่มีค่าจากพ่อแม่หรือบุคคลอื่นเพราะความสัมพันธ์พิเศษที่มีกับคนนั้น คำว่า "ทายาท" คือคนที่รับมรดก
คำว่า "รับเอา" โดยทั่วไปแล้ว หมายถึง การรับเอาบางสิ่งที่ได้มีการให้ เสนอ หรือ มอบให้
ราหับเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรีโคเมื่อคนอิสราเอลโจมตีเมืองเยรีโค และเธอเป็นหญิงโสเภณี
"รู้" หมายถึง การเข้าใจบางสิ่งหรือรับรู้ข้อมูลความจริง คำกล่าว "ทำให้รู้" เป็นคำกล่าวที่หมายถึงการบอกข้อมูล
คำว่า "ร่างกาย" มีการกล่าวตามตัวอักษรว่าร่างกายทางกายภาพของคนหรือสัตว์ คำนี้ยังใช้เป็นคำเปรียบเทียบที่กล่าวถึงวัตถุสิ่งของ หรือทั้งกลุ่มที่มีสมาชิกรวมเป็นสิ่งเดียว
คำว่า "ละเมิด" และ "การล่วงละเมิด" ฮ็ษ.ถึงการไม่ปฎิบัติตามคำสั่ง กฎหมาย หรือหลักศีลธรรม
คำว่า "ลาน" และ "ศาล" กล่าวถึงพื้นที่ปิดล้อมและล้อมรอบด้วยกำแพง ซึ่งด้านบนเปิดออกสู่ท้องฟ้า คำว่า "ศาล" ยังหมายความถึงสถานที่ซึ่งผู้พิพากษาตัดสินทางกฏหมาย และเรื่องเกี่ยวกับอาชญากรรมทั้งหลาย
คำแนะนำในการแปล
ในพระคัมภีร์ มีความหมายที่เป็นทำนองเปรียบเทียบของ "ลิ้น" หลายอย่าง
คำว่า "วิญญาณ" อ้างถึงส่วนที่ไม่ใช่เนื้อหนังของคนซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ เมื่อบุคคลตายวิญญาณของเขาได้จากร่างของเขา "วิญญาณ" สามารถอ้างถึงทัศนคติหรือสภาพทางอารมณ์
ในพระคัมภีร์นั้น คำว่า "สมบูรณ์" หมายถึงการมีชีวิตคริสเตียนที่เติบโตเต็มที่ ส่วนการทำให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งสมบูรณ์หมายถึงการทำจนกว่าสิ่งนั้นจะดีเยี่ยม ปราศจากข้อผิดพลาดใดๆ
คำว่า "สมาชิก" อ้างถึง ส่วนหนึ่งของร่างที่ซับซ้อนหรือกลุ่ม
การสรรเสริญใครสักคนคือการแสดงความชื่นชมและการให้เกียรติแก่บุคคลนั้น
คำว่า "สร้าง" หมายถึงการทำสิ่งใด ๆ หรือทำให้สิ่งใด ๆ เกิดชึ้น สิ่งใดที่ถูกสร้างขึ้นเรียกว่า "สิ่งที่ทรงสร้าง" พระเจ้าถูกเรียกว่า "พระผู้สร้าง" เพราะพระองค์ได้ทรงทำให้ทุกสิ่งในจักรวาลทั้งหมดให้มีขึ้น
เมื่อใช้คำเปรียบเทียบในพระคัมภีร์ "สวมด้วย" มีความหมายว่าการทำให้ หรือติดตั้งด้วยบางสิ่ง คำว่า "สวมทับ" ตัวเองด้วยบางสิ่งหมายถึงการแสวงหาที่จะมีลักษณะบุคลิกภาพเฉพาะอย่าง
คำที่แปลว่า "สวรรค์" อ้างถึงสถานที่ที่พระเจ้าประทับอยู่ คำเดียวกันอาจจะหมายถึง "ท้องฟ้า" ขึ้นอยู่กับบริบท
คำว่า"สอน" และ "การสอน" หมายถึงการบอกข้อมูลให้แก่ผู้คนถึงสิ่งที่พวกเขาไม่รู้มาก่อน โดยปกติแล้วข้อมูลจะถูกให้ไว้อย่างเป็นทางการหรือเป็นระบบ
คำว่า "สะอาด" มีความหมายตามตัวอักษรว่าไม่มีความสกปรกหรือมลทินใดๆ ในพระคัมภีร์ คำนี้มักใช้เป็นคำเปรียบเทียบที่หมายถึง "ทำให้บริสุทธิ์" "บริสุทธิ์" หรือ "ปราศจากบาป"
คำสัญญาคือ คำปฏิญาณเพื่อทำบางอย่าง เมื่อมีคนสัญญาบางอย่างนั่นแปลว่าเขากำลังให้คำมั่นสัญญาที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง
ในพระค้มภีร์ คำว่า "สัตว์ป่า" มักเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้เรียก "สัตว์"
คำว่า "สันติสุข" อ้างถึงสถานะที่เป็นอยู่หรือความรู้สึกซึ่งปราศจากความขัดแย้ง ความวิตกกังวล หรือความกลัว บุคคลผู้ที่มี "สันติสุข" จะรู้สึกสงบและมั่นใจในความปลอดภัยและมั่นคง
สารภาพ หมายถึงการยอมรับ หรือการยืนยันว่าบางสิ่งเป็นความจริง "การสารภาพ" เป็นการกล่าว หรือการยอมรับว่าบางสิ่งเป็นความจริง
คำว่า "สำแดง" หมายถึงการทำให้บางสิ่งบางอย่างเป็นที่รู้ การเปิดเผย เป็นบางสิ่งบางอย่างที่ได้ทำให้รู้
คำว่า "ส่ง" คือการส่งให้บางคนหรือบางสิ่งให้ไปบางแห่ง การ"ส่งออกไป"บางคนเพื่อบอกให้บุคคลนั้นไปทำงานหรือเพื่อทำพันธกิจ
คำว่า "ใบหน้า" ตามตัวอักษรก็หมายถึงส่วนหนึ่งของศรีษะมนุษย์ คำนี้มีความหมายในเชิงเปรียบเทียบหลายอย่าง
คำว่า "หยิ่ง" และ "ความเย่อหยิ่ง" อ้างถึงคนที่คิดถึงตนเองสูงมาก และเฉพาะอย่างยิ่งการคิดว่าเขาดีกว่าคนอื่น
การ "หว่าน" หมายถึงการใส่เมล็ดลงไปในดินเพื่อที่จะปลูกพืช คำว่า "ผู้หว่าน" คือบุคคลที่หว่านหรือปลูกเมล็ด
การ "หัน" หมายถึงการเปลี่ยนทิศทางทางกายภาพหรือทำให้เกิดสิ่งอื่นเพื่อเปลี่ยนทิศทาง
"หันเหไปจาก" หมายถึง "หยุดทำอะไรบางอย่าง"
ในพระคัมภีร์ คำว่า "หัวใจ" มักจะถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยซึ่งอ้างถึงความคิด อารมณ์ ความปรารถนาหรือความตั้งใจของบุคคล
คำว่า "หึงหวง" และ "ความหึงหวง" อ้างถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะปกป้องความบริสุทธิ์ของความสัมพันธ์ และยังสามารถอ้างถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะรักษาความเป็นเจ้าของของบางสิ่งหรือบางคน
คำว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า" อ้างถึงบางคนผู้มีความเป็นเจ้าของหรืออำนาจสิทธิ์ขาดเหนือประชาชน เมื่อขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่ จะเป็นตำแหน่งที่อ้างถึงพระเจ้า (หมายเหตุ อย่างไรก็ตามเมื่อมีการใช้คำนี้เพื่ออ้างถึงใครบางคนหรือใช้เป็นคำเริ่มต้นของประโยค ก็จะใช้เป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ และมีความหมายว่า "นายท่าน" หรือ "นาย")
องุ่นเป็นผลไม้ขนาดเล็กกลม ผิวเรียบที่เติบโตในพวงองุ่น น้ำของลูกองุ่นถูกนำมาใช้ในการทำเหล้าองุ่น
คำว่า "อดทน" หรือ "ความอดทน" อ้างถึงการบากบั่นพยายามผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบาก บ่อยครั้งนั้นการอดทนเกี่ยวข้องการรอคอยอยู่ด้วย
คำว่า "อธิษฐาน" และ"คำอธิษฐาน" หมายถึงการสนทนากับพระเจ้า คำนี้ยังหมายถึงคนที่พยายามคุยกับพระเทียมเท็จด้วย
การ "อวยพร" คนใดคนหนึ่ง หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หมายถึงการทำให้สิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์เกิดขึ้นกับคนนั้น หรือสิ่งนั้นที่ได้รับการอวยพร
//จากความคิดเห็นข้างล่างนี้ : สิ่งที่สำคัญ อย่าเจาะจง มุ่งเน้น หรือจำกัด โดยการนำรากศัพท์ของคำว่า "อวยพร" ไปใช้ที่ทำให้นึกถึงความเจริญรุ่งเรืองหรือความอุดมสมบูรณ์ในสิ่งที่เป็นวัตถุสิ่งของ หรือการมีสุขภาพดีทางกายภาพเป็นสำคัญ ขอให้พิจารณาคำสอนในพระคัมภีร์เรื่องความรัก พระเมตตาและพระคุณของพระเจ้าไม่ไช่เฉพาะในสมัยโบราณเท่านั้น แต่มีในปัจจุบันด้วย ขอให้พิจารณาถึงการดูแล การปกปักรักษา และการสถิตของพระวิญญาณของพระเจ้า และสำหรับเราที่จะอวยพรพระเจ้า เราสามารถถวายการขอบพระคุณ ความชื่นชมยินดี และความเข้าใจ ในขณะที่เราเรียนรู้ที่จะติดตาม (เชื่อฟัง) พระองค์ //
อับรามเป็นคนเคลเดียมาจากเมืองเออร์ เป็นผู้ได้รับการทรงเลือกจากพระเจ้าให้เป็นบรรพบุรุษของคนอิสราเอล พระเจ้าทรงได้เปลี่ยนชื่อของท่านเป็น "อับราฮัม"
อาณาจักรคือกลุ่มคนที่ถูกปกครองโดยกษัตริย์องค์หนึ่ง และยังอ้างถึงดินแดนหรือภูมิภาคทางการเมืองที่กษัตริย์หรือผู้ครอบครองคนอื่นได้ควบคุมและมีอำนาจเหนือ
คำว่า "อ่อนสุภาพ" อธิบายถึงบุคคลที่สุภาพอ่อนโยน อ่อนน้อมยอมทำตาม และเต็มใจทนทุกข์อย่างไม่ยุติธรรม ความอ่อนสุภาพคือความสามารถในการสุภาพแม้ว่าเมื่อมีความเกรี้ยวกราดหรือบีบบังคับที่ดูเหมือนไม่เหมาะสมเกิดขึ้น
คำว่า "เกียรติ" และ "ให้เกียรติ" อ้างถึงบางคน เคารพ นับถือ ยกย่อง หรือการคารวะ
คำว่า "การเก็บเกี่ยว" อ้างถึงการรวบรวมผลไม้สุกหรือพืชผักจากสวนที่พืชนั้นเจริญเติบโต
คำว่า "เก็บเกี่ยว" หมายถึง การเกี่ยวเก็บพืชผลอย่างเช่น เมล็ดข้าว "ผู้เก็บเกี่ยว"เป็นคนที่เกี่ยวเก็บพืชผล
คำว่า "เข้าใจ" หมายถึงการรับฟังหรือรับข้อมูลและรู้ว่าสิ่งนั้นมีความหมายว่าอย่างไร
คำว่า "เงา" ตามตัวหนังสือแล้วอ้างถึงความมืดที่มีสิ่งของอย่างหนึ่งมาบดบังความสว่าง มันยังมีความหมายตามคำอุปมาอีกหลายอย่าง
เงินเป็นโลหะที่เป็นประกาย มีสีเทาเป็นโลหะที่มีค่าใช้ทำเป็นเหรียญต่างๆ เครื่องประดับต่างๆ ภาชนะบรรจุและเครื่องตกแต่งต่างๆ
คำว่า "เจิม" หมายถึงการเอาน้ำมันทาหรือเทบนบุคคลหรือวัตถุ บางคร้งน้ำมันนั้นก็ถูกผสมกับเครื่องเทศ มีกลิ่นดี มีกลิ่นน้ำหอม คำนี้ใช้เปรียบเทียบหมายถึงการเลือกของพระวิญญาณบริสุทธิ์และให้ฤทธิ์อำนาจกับบางคนด้วย
คำว่า "เจ้านาย" อ้างถึงบางคนที่เป็นเจ้าของหรือมีสิทธิอำนาจเหนือผู้คน
คำว่า "เถาองุ่น" อ้างถึง พืชที่เจริญเติบโตได้โดยการคืบคลานไปตามพื้นหรือโดยการเลื้อยไปตามต้นไม้หรือโครงสร้างอื่น ๆ คำว่า "เถาองุ่น" ในพระคัมภีร์ใช้เฉพาะเถาที่ผลิตผลและมักหมายถึงเถาองุ่น
ในพระคัมภีร์คำว่า "เนื้อหนัง" ตามตัวอักษรกล่าวถึงส่วนที่นุ่มนิ่มทางกายภาพของร่างกายของมนุษย์หรือสัตว์
คำว่า "เบื้องบน" หรือ "ในที่สูงสุด" เป็นคำกล่าวซึ่งโดยทั่วไปหมายความว่า "ในสวรรค์"
คำว่า "เผ่า" กล่าวถึงกลุ่มสมาชิกของครอบครัวใหญ่ที่มาจากบรรพบุรุษเดียวกัน
คำว่า "เพื่อน" กล่าวถึงคนที่ไปกับอีกคนหนึ่ง หรือคนที่คบหากับอีกคนหนึ่ง อย่างเช่น ในการเป็นเพื่อนหรือคู่สมรส
"เพื่อนบ้าน " ดดยปกติอ้างถึงบุคคลผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกัน และยังสามารถอ้างถึงบางคนผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกันหรือกลุ่มชนเดียวกัน
คำว่า "เมตตา" หรือ "เปี่ยมด้วยเมตตา" อ้างถึงการให้ความช่วยเหลือต่อคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาตกอยู่ในสถานะที่ตกต่ำ
คำว่า "เรียก" และ "ร้องเรียก" มีความหมายตามตัวอักษรว่าการพูดบางอย่างด้วยเสียงดังกับคนใดคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ยังมีคำที่มีความหมายเปรียบเทียบอีกหลายคำ
ในพระคัมภีร์ คำว่า "เวลา" มักใช้เป็นสัญลักษณ์ในการอ้างอิงถึงฤดูกาลหรือช่วงเวลาเฉพาะเจาะจงที่เหตุการณ์ต่างๆ ได้เกิดขึ้น มีความหมายคล้ายกับ "สมัย" หรือ "ยุค" หรือ "ฤดู"
คำว่า "เสียง" บ่อยครั้งมักใช้ในเชิงเปรียบเทียบเพื่ออ้างถึงการพูดหรือการสื่อสารบางอย่าง
คำว่า "เหมือนกัน" และ "ความเหมือนกัน" อ้างถึงบางสิ่งที่เหมือนกัน หรือคล้ายกันกับบางสิ่ง
เอลียาห์เป็นผู้เผยพระวจนะที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งของพระยาห์เวห์ เอลียาห์ได้พยากรณ์ในช่วงหลายรัชสมัยของกษัตริย์อิสราเอลหรือยูดาห์ รวมทั้งกษัตริย์อาหับ
แท่นบูชาเป็นโครงสร้างที่ยกสูงจากพื้นขึ้นมา ซึ่งคนอิสราเอลใช้เผาสัตว์ และเมล็ดพืชเพื่อเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระเจ้า
คำว่า "แยกออกมา" มีความหมายว่าถูกแยกออกมาจากบางสิ่งเพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์
การ "โกรธ" หรือ "โมโห" หมายถึงการไม่พอใจอย่างมาก หงุดหงิด และไม่พอใจบางอย่างหรือบางคน
โยบคือชายคนหนึ่งที่ได้รับการอธิบายในพระคัมภีร์ว่าเป็นคนที่ไร้ตำหนิและชอบธรรมต่อพระเจ้า เขามีชื่อเสียงดีที่สุดเรื่องการยืนหยัดในความเชื่อในพระเจ้าผ่านช่วงเวลาแห่งการทนทุกข์อย่างเลวร้าย
คำว่า "โลก" โดยปกติหมายถึงส่วนหนึ่งของจักรวาลที่ผู้คนอาศัยอยู่: แผ่นดินโลก คำว่า "โลกียวิสัย" อธิบายค่านิยมและพฤติกรรมที่ชั่วร้ายของผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้
คำว่า "โสเภณี" และ "หญิงแพศยา" อ้างถึงบุคคลคนที่ทำกระทำการทางเพศเพื่อเงินหรือเพื่อพิธีกรรมทางศาสนา โสเภณีหรือหญิงแพศยามักจะเป็นเพศหญิง แต่บางคนก็เป็นเพศชาย
คำว่า "โอ้อวด" หมายถึงการพูดอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่ง บ่อยครั้งที่คำนี้หมายถึงการพูดคุยโวโอ้อวดตนเอง
ไฟคือความร้อน ความสว่างและเปลวไฟที่เกิดมาจากการที่บางสิ่งถูกเผา